คณะกรรมการฯ SEA แจงความคืบหน้าผลการดำเนินงาน
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช
รองปลัดกระทรวงพลังงาน
ในฐานะประธานร่วมคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA)
สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ เปิดเผยถึง
การจัดตั้งคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้
(SEA) ซึ่งได้ดำเนินการแล้วตามการลงนามของนายศิริ
จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงนามคำสั่งกระทรวงพลังงาน 11/2561
ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมการฯ
ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม
และด้านเทคโนโลยี ทำหน้าที่กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกผู้ดำเนินการศึกษา
ให้ข้อเสนอแนะปัจจัยการประเมิน SEA
ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะต่อผลการดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆ
อย่างต่อเนื่อง
นายดนุชา พิชยนันท์
รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานร่วมฯ กล่าวว่า สำหรับกรอบการศึกษา (TOR) ที่จะมีการว่าจ้างที่ปรึกษานั้น
คณะกรรมการฯ ได้ยกร่างข้อกำหนดการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA)
สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ โดยยึดหลักการศึกษา SEA
ซึ่งต้องครอบคลุมทุกทางเลือกการพัฒนา
สามารถตอบคำถามต่อภาคประชาชนและผู้เกี่ยวข้องและใช้ประกอบการตัดสินใจของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตลอดจนนำไปสู่การกำหนดการพัฒนาที่ยั่งยืนบนพื้นฐานการยอมรับของประชาชน
โดยการศึกษา SEA มีหัวใจสำคัญ
คือ
การพัฒนาและประเมินผลกระทบที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
โดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน
เป็นต้น ผลที่คาดว่าจะได้รับ
นอกจากรัฐบาลจะกำหนดนโยบายการพัฒนาและจัดหาพลังงานภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับจากประชาชนแล้ว
กระทรวงพลังงานจะสามารถปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) เพื่อใช้เป็นกรอบการพัฒนาและลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ภาคใต้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตอีกด้วย
ด้านกระบวนการดำเนินการศึกษา
กระทรวงพลังงานจะเผยแพร่ข้อกำหนดการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้
ซึ่งนำไปสู่การ
เปิดกว้างต่อทุกกลุ่มที่สนใจในการจัดทำข้อเสนอโครงการ ทั้งนี้ในส่วนระยะเวลาการดำเนินงานนั้น
กำหนดให้มีการศึกษาภายในระยะเวลา 9 เดือน
นายดนุชา กล่าวเพิ่มว่า
ภายหลังที่มีการอนุมัติโครงการ และเริ่มมีการศึกษา SEA ตามกรอบการศึกษาตาม
TOR แล้ว คณะกรรมการฯ
จะกำกับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะ 5
เดือนแรกจะต้องนำเสนอผลการศึกษาในประเด็นที่สำคัญ อาทิ
ผลวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ภาคใต้ว่าควรมีโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่
หากจะมีพื้นที่ใดบ้างที่มีความเหมาะสมในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่
ตลอดจนผลการวิเคราะห์ทางเลือกอื่นๆ ในการพัฒนาพลังงานในพื้นที่ภาคใต้
ในกรณีที่หากไม่มีพื้นที่ที่จะสามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ เพื่อเสนอต่อรัฐบาล
ต่อไป