พลังแสงอาทิตย์รัฐแคลิฟอร์เนีย "ล้นเกิน"
ศูนย์ควบคุมฯ เบรครับซื้อ 95 ล้านหน่วย
รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
กำลังอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีแดดแรง
ซึ่งหมายความว่าฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคากำลังผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบจำนวนมากมหาศาล
จนกระทั่งราคาตกต่ำลง
ทำให้ศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้าของรัฐต้องสั่งให้ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลดการผลิตลง
ข้อมูลจาก California Independent System Operator หน่วยงานที่ควบคุมระบบไฟฟ้าของรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า
ในเดือนเมษายน 2561 ฟาร์มแสงอาทิตย์และกังหันลมในแคลิฟอร์เนียต้องลดปริมาณการผลิตไฟฟ้าไปกว่า
95,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมง
ซึ่งเป็นปริมาณไฟฟ้าที่มากพอสำหรับจ่ายให้แก่บ้านเรือนกว่า 30 ล้านหลังคาเรือนใน
1 เวลาชั่วโมง
กราฟแสดงการลดปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ซึ่งในปี 2561 ฤดูใบไม้ผลิ
มีการลดการผลิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปริมาณไฟฟ้าซึ่งผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มากเกินไปนี้
เกิดขึ้นเพราะรัฐแคลิฟอร์เนียเร่งเพิ่มกำลังผลิตของพลังงานหมุนเวียนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ตามนโยบายของรัฐที่ตั้งเป้าหมายใช้แหล่งพลังงานที่ปราศจากคาร์บอนภายในปี 2573
นอกจากนั้น กำลังผลิตใหม่ที่จะเพิ่มเข้าสู่ระบบในอีก 2-3
ปีข้างหน้า
จะทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียมีกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เร็วกว่ากำหนดถึง 10 ปี
กฎการให้บ้านที่สร้างใหม่ในรัฐแคลิฟอร์เนียต้องติดแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิม
เนื่องจากยังมีการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า แม้ความต้องการจะลดลง
พลังงานสะอาดมากเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องดี
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้จำนวนมากอาจจะเป็นเรื่องดีต่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แต่ในทางกลับกันย่อมส่งผลต่อระบบไฟฟ้าทั้งในด้านกายภาพและด้านเศรษฐศาสตร์
ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดกับหลายรัฐและหลายประเทศที่เร่งเพิ่มกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียน
ปริมาณกำลังผลิตไฟฟ้าของพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ข้อจำกัดของพลังงานแสงอาทิตย์
คือแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีอยู่ทั้งหมดในพื้นที่เดียวกันจะเพิ่มหรือลดปริมาณการผลิตไฟฟ้าพร้อมๆ
กันเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก และสามารถผลิตไฟฟ้าสูงที่สุดในช่วงเที่ยง
ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟต่ำสุด
ระบบไฟฟ้าของรัฐแคลิฟอร์เนียมีความสามารถจำกัดในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแสงอาทิตย์
และมีข้อจำกัดในการส่งไฟฟ้าที่ผลิตได้เกินไปขายที่รัฐอื่น
อีกทั้งไม่สามารถสร้างความสมดุลของปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ
อย่างพลังงานลมได้ จึงหมายความว่า
ยิ่งแคลิฟอร์เนียผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากเท่าไร ความคุ้มค่ายิ่งน้อยลงเท่านั้น
เราต้องการพลังงานสะอาดที่ราคาถูกไม่ใช่หรือ
คำตอบคือใช่ แต่ทั้งนี้ เรื่องของต้นทุนและราคาเป็นคนละเรื่องกัน ในสภาพตลาดที่ราคาพลังงานตกต่ำจนเท่ากับศูนย์ มีความหมายว่ากำไรของผู้ผลิตไฟฟ้าหายไป และทำให้ไม่อยากลงทุนเพิ่มกำลังผลิต และในที่สุดทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์เกิดภาวะชะงัก
ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน
ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินจำกัดมีผลกระทบต่อราคาขายส่ง
และยิ่งทำให้กำไรของผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และลมลดลง เมื่อถึงปี 2573
หากระบบไฟฟ้าของรัฐแคลิฟอร์เนียมีการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ร้อยละ 30
และลมร้อยละ 10 ราคาไฟฟ้าจากพลังงานเหล่านี้จะลดลงร้อยละ
39 ในตลาดไฟฟ้านิวยอร์ก และร้อยละ 27 ในตลาดไฟฟ้าแคลิฟอร์เนีย
กราฟแสดงผลกระทบต่อต้นทุนไฟฟ้าขายส่งจากการเพิ่มกำลังผลิตของพลังงานหมุนเวียนในระบบ
ตลาดกำลังส่งสัญญาณว่า จำเป็นต้องชะลอการเพิ่มขึ้นของปริมาณไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน สำหรับตลาดในอุดมคติ ราคาไฟฟ้าขายส่งที่ลดต่ำลงหมายถึงว่าผู้ใช้ไฟฟ้าจ่ายค่าไฟลดลงด้วย แต่สำหรับในกรณีของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีการขยายระบบส่ง มีโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่จะปิดลง และนโยบายการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน ค่าไฟฟ้าในรัฐจึงยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับรัฐอื่นๆ ที่ค่าไฟเริ่มถูกลง
ไฟฟ้าที่ผลิตได้มากเกินทำให้ค่าไฟขายส่งถูกลง
แต่ผู้ใช้ไฟที่ซื้อไฟฟ้าในราคาขายปลีกต้องทำหน้าที่รับภาระจ่ายค่าไฟในราคาสูง
ที่เกิดจากปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตเกินมานี้
แนวทางแก้ปัญหา
รัฐแคลิฟอร์เนียจำเป็นต้องมีระบบเก็บพลังงานเพื่อเก็บกักพลังงานสำหรับใช้ในช่วงที่พระอาทิตย์ไม่ได้ส่องแสงหรือลมไม่พัด แต่ในสภาพปัจจุบัน ระบบเก็บพลังงานยังมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งรัฐอาจต้องใช้วิธีการสร้างและขยายระบบส่งไฟฟ้าให้กินอาณาเขตมากขึ้นเพื่อรองรับปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้มหาศาลนี้ให้ได้ทั้งหมด
อีกทางออกหนึ่งคือการเปลี่ยนช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง โดยอาจออกมาตรการที่ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ต่างกัน ซึ่งอาจรวมถึงออกมาตรการสนับสนุนให้ผู้ใช้ไฟภาคครัวเรือนเลือกที่จะชาร์จรถไฟฟ้าตอนกลางวัน แทนที่จะเป็นกลางคืน
แทนที่จะลงทุนสร้างระบบเก็บพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อไว้ใช้เวลาอื่น รัฐแคลิฟอร์เนียอาจสูญเสียเงินลงทุนน้อยกว่า หากสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้า จนความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อชาร์จรถสมดุลกับไฟฟ้าปริมาณมากที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน
แต่สุดท้ายแล้ว แคลิฟอร์เนียก็ยังต้องการระบบเก็บพลังงานขนาดใหญ่
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่พร้อมเดินเครื่องได้เร็ว และโรงไฟฟ้าอื่นคู่กับระบบเก็บพลังงาน
และทั้งหมดนั้นก็ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล
แปลและเรียบเรียง : สุภร เหลืองกำจร
ข้อมูลจาก : California is throttling
back record levels of solar—and that’s bad news for climate goals
https://www.technologyreview.com/s/611188/california-is-throttling-back-record-levels-of-solarand-thats-bad-news-for-climate-goals/