ปตท.สผ.กางแผนลงทุน5ปี ปรับกลยุทธ์ รับมือราคาน้ำมันผันผวน
นายเทวินทร์ วงศ์วานิชประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. สรุปผลการดำเนินงานในปี 2557 เปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินงานและแผนการลงทุน5 ปีภายใต้ความผันผวนของสถานการณ์น้ำมันดังนี้
ผลการดำเนินงานของ ปตท.สผ. ในปี 2557 ยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2557 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. คาดว่ามีอัตราการขายปิโตรเลียม 320,000บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ9เป็นผลมาจากการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติของโครงการซอติก้า และการเข้าซื้อกิจการใน Hess Thailand ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคเรื่องราคาน้ำมันที่ลดลงในไตรมาส 4 แต่ผลการดำเนินงานปกติของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากในส่วนของผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ขายคิดเป็นร้อยละ 33 ของปริมาณขายทั้งหมด บริษัทได้มีการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันโดยการทำอนุพันธ์ประกันความเสี่ยง(Hedging) ไว้แล้วเป็นส่วนใหญ่ สำหรับก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คิดเป็นประมาณร้อยละ 67 ของปริมาณการขายทั้งหมด มีราคาขายที่อ้างอิงราคาน้ำมันประมาณร้อยละ 30-50ประกอบกับราคาก๊าซฯ มีการปรับราคาตามสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ของแต่ละโครงการในทุก ๆ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ทำให้แนวโน้มการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในระยะสั้นไม่ส่งผลกระทบต่อราคาก๊าซฯมากนัก
อย่างไรก็ตาม จากการที่ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงอย่างมาก อาจมีผลให้มูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สินบางโครงการ ณ สิ้นงวดตามมาตรฐานบัญชีปรับลดลงซึ่งจะมีผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนในการนี้บริษัทจะติดตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดและจะดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชีต่อไป
แผนการลงทุน 5 ปี (2558-2562) 2.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
สำหรับงบประมาณการลงทุน
5 ปี ตั้งแต่ปี 2558 - 2562 ของ ปตท.สผ.ประกอบด้วย ประมาณการรายจ่ายลงทุน (Capital
Expenditure)และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) รวมทั้งสิ้น 24,295 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (สรอ.) เพื่อใช้ลงทุนและพัฒนาโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ
ปตท.สผ. มุ่งเน้นลงทุนในประเทศไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เกือบร้อยละ 80
โดยแบ่งตามแผน
รายปี ดังนี้
หน่วย : ล้านดอลล่าร์ สรอ.
|
2558 |
2559 |
2560 |
2561 |
2562 |
2558 - 2562 |
รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) |
3,071 |
3,437 |
3,833 |
3,110 |
2,411 |
15,862 |
รายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) |
1,761 |
1,767 |
1,660 |
1,648 |
1,597 |
8,433 |
รายจ่ายรวมทั้งสิ้น (Total Expenditure) |
4,832 |
5,204 |
5,493 |
4,758 |
4,008 |
24,295 |
ทั้งนี้รายจ่ายลงทุน5 ปีดังกล่าวยังไม่รวมประมาณการเงินลงทุนที่ ปตท.สผ. อาจต้องใช้เพิ่มสำหรับโอกาสทางธุรกิจเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองให้กับบริษัท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบ อีกทั้งบริษัทได้จัดเรียงลำดับความสำคัญของการใช้เงินลงทุน (Prioritization) เพื่อรองรับสภาวะราคาน้ำมันที่ผันผวน ดังนี้
? โครงการที่มีการผลิตอยู่แล้ว จะดำเนินต่อไปเพื่อรักษาระดับการผลิตไม่ให้กระทบต่อความต้องการใช้ปิโตรเลียมในประเทศ
? โครงการที่อยู่ในขั้นพัฒนา มีการประเมินและปรับแผนการลงทุนให้มีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน
? โครงการที่อยู่ในขั้นสำรวจ จะชะลอการดำเนินงานในโครงการมีความเสี่ยงสูงและไม่มีภาระผูกพันออกไปก่อนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมในอนาคต
แผนการดำเนินงานปี 2558
สำหรับปี 2558 ปตท.สผ. ได้ประมาณการรายจ่ายรวมอยู่ที่4,832 ล้านดอลล่าร์ สรอ. โดยกว่า 2 ใน 3 ของรายจ่ายลงทุนจะเน้นการดำเนินงานโครงการต่างๆ ในประเทศไทย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยร้อยละ 52 ของการลงทุนเป็นกิจกรรมส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพื่อรักษาระดับปริมาณการผลิตในประเทศไทย ได้แก่โครงการอาทิตย์โครงการเอส 1โครงการบงกชโครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการ MTJDA ส่วนอีกร้อยละ 20 ของรายจ่ายลงทุนได้จัดสรรไว้สำหรับโครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายสำหรับโครงการในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้แก่ การลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิตของโครงการซอติก้ากิจกรรมการพัฒนาของโครงการเมียนมาร์เอ็ม 3 กิจกรรมการสำรวจเพื่อประเมินศักยภาพทางปิโตรเลียมของโครงการเมียนมาร์พีเอสซีจี และอีพี 2โครงการเมียนมาร์ เอ็มโอจีอี 3 และโครงการเมียนมาร์MD-7 และMD-8
จากประมาณการรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายดำเนินงานในปี 2558 ดังกล่าว ปตท.สผ.คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยสำหรับปี 2558 ได้ถึง 343,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันหรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 จากปี 2557 โดยส่วนใหญ่จะมาจากการผลิตเต็มปีของโครงการซอติก้าและโครงการผลิตปิโตรเลียมของ Hess Thailand ที่บริษัทเข้าซื้อกิจการในปี 2557 รวมถึงการผลิตน้ำมันดิบจากโครงการแอลจีเรีย 433เอ& 416บีซึ่งคาดว่าจะเริ่มการผลิตครั้งแรกได้ในไตรมาส 2 ของปี 2558
"จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนซึ่งมีผลกระทบต่อ ปตท.สผ. ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์และแผนดำเนินงานของปี 2558 และแผนการดำเนินงาน 5 ปี เพื่อให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจและการลงทุน รวมถึงการทำโครงการ "SAVE?to be SAFE" เพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี สามารถรองรับโอกาสใหม่ๆ ในการควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้บริษัทจะติดตามสภาวะราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ บริษัทก็สามารถปรับลดการลงทุนลงอีกเพื่อรักษาสภาพคล่องและความแข็งแกร่งในการดำเนินงานต่อไป" นายเทวินทร์กล่าว
---------------