พพ. โชว์ห้างเซ็นทรัลฯ โคราช ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานภาคอีสาน
นายโกมล บัวเกตุ
ผู้อำนวยการสำนักกำกับและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ.
ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา นครราชสีมา
ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่ได้รับการรับรองอาคารธุรกิจ ในระดับดีมาก
ที่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการออกแบบด้านพลังงานเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building
Energy Code, BEC) ซึ่งเป็นที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่ให้ความสำคัญในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบอาคาร การทำระบบส่องสว่าง และ
การเลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ที่สามารถประหยัดพลังงานโดยรวมได้ถึง 69.4
% หรือประหยัดพลังงานในอาคาร ประมาณ 7 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปี
จากเดิมที่มีการใช้พลังงานของอาคารคิดเป็น ประมาณ 23ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปี
"การส่งเสริมให้ภาคเอกชน
โดยเฉพาะอาคารธุรกิจขนาดใหญ่มาให้ความสนใจในเรื่องการนำมาตรฐานของ BEC มาเป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพ
หรือการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ รวมทั้งการออกแบบ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ในด้านของต้นทุนพลังงานที่ลดลง
ซึ่งที่ผ่านมา พพ. ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2552
เป็นต้นมา ซึ่งได้รับความสนใจจากภาคเอกชนเข้ามาร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งอาคารศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซา นครราชสีมา
เป็นอีกอาคารหนึ่งที่จะเป็นต้นแบบและแนวทางของการนำไปปรับใช้เพื่อการวางระบบอาคารธุรกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ"
นายโกมลกล่าว
ทั้งนี้การตื่นตัวของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จากฐานข้อมูลมีจำนวนอาคารกว่า 38 อาคาร
ส่วนใหญ่เป็นอาคารสถานศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มีผลประหยัด 1.48
พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อปี(ktoe/y) หรือ คิดเป็น 60
ล้านบาทต่อปี ซึ่ง พพ. มีเป้าหมายในการขยายผลการเข้าไปส่งเสริม
ของอาคารธุรกิจอนุรักษ์พลังงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปี 2562
ต่อเนื่อง โดยในส่วนของภาพรวมการดำเนินงานของโครงการ BEC ทั่งวประเทศ
พพ.ได้จัดทำขึ้นตั้งแต่เริ่มปี 2553-2561 ที่ผ่านประมาณ 9 ปี
มีแบบอาคารที่ส่งแบบเข้ามาตรวจรวมแล้ว 700 แห่ง มีผลประหยัด 40.57
พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อปี (ktoe/y) หรือคิดเป็น 1,660
ล้านบาทต่อปี
นายเสฏฐวุฒิ ทัตสุระ
ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา กล่าวว่า
สำหรับการดำเนินการออกแบบอาคารเซ็นทรัล พลาซา อนุรักษ์พลังงานดังกล่าว
ได้ออกแบบตามหลักวิศกรรมและภูมิสถาปัตย์ ที่เป็นโครงการมิกส์ยูส (Mixed-use)
ของบริษัท ที่ใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยศูนย์การค้า ศูนย์ประชุม
โครงการที่อยู่อาศัย คอนโดมีเนียม และโรงแรม
ดังนั้นปริมาณการใช้ไฟในแต่ละปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทจึงได้มีการลงทุนในการวางระบบการบริหารจัดการด้านพลังงาน
ประมาณ 3-5 % ของวงเงินลงทุนในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ทำความเย็นภายในอาคารที่มีประสิทธิภาพ การทำระบบส่องสว่างภายในอาคาร
โดยเลือกติดตั้งกระจกโลว์อี ที่มีคุณสมบัติให้แสงสว่างกันความร้อนและป้องกันรังสีเข้าภายในอาคาร
รวมถึงการใช้หลอดไฟ LED ที่ใช้พลังงานต่ำ
และยังได้ออกแบบด้านข้างอาคารเป็นลานจอดรถทั้งสองด้าน
เพื่อสามารถเป็นฉนวนกันความร้อนเข้ามาภายในตัวอาคารอีกด้วย