นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (17
กันยายน 2562) โดยมีเรื่องสำคัญ คือ
การนำเงินกองทุนน้ำมันมาใช้บรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศซาอุดีอาระเบีย
เพื่อป้องกันภาวะการขาดแคลน และการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยที่ประชุมได้เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มน้ำมันเบนซิน
1.00 บาทต่อลิตร และกลุ่มดีเซลลง 0.60
บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน
มีผลตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 62
นอกจากนี้
ที่ประชุมรับทราบมาตรการในด้านการจัดหา
ให้สามารถกระจายการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่น เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
ประเทศโอมาน เป็นต้น เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันจากซาอุดีอาระเบียประมาณ
170,000 บาร์เรลต่อวัน
ในส่วนบริหารจัดการปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในช่วงที่คาดว่าจะเกิดวิกฤตการณ์
โดย ณ วันที่ 16 กันยายน 2562
ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือและปริมาณสำรองของประเทศ มีปริมาณรวม 6,407
ล้านลิตร เพียงพอใช้ได้ 54 วัน และปริมาณ LPG สำหรับการใช้ในภาคครัวเรือน
ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง สามารถเพียงพอใช้ได้ 12
วัน ทั้งนี้ หากสถานการณ์ยาวนานเกินกว่า 12 วัน กรมธุรกิจพลังงานจะจัดสรร LPG
ให้กับภาคครัวเรือนก่อนเป็นลำดับแรก
สถานะของเงินกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 15
กันยายน 2562 กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิ 39,402
ล้านบาท ภายหลังปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว
จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องติดลบประมาณ 813 ล้านบาท/เดือน