นายนพดล
ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส
3/2562 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) เพิ่มขึ้น
1.04 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่มปิโตรเลียม
โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มขึ้น และมีกำไรจากการขายที่ดินใน
อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จำนวน 124 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม
กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยืดเยื้อ
การประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน
ส่งผลให้ความต้องการซื้อถดถอย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบผันผวนและปรับลงอย่างต่อเนื่อง
โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาส 3/2562
ปรับตัวอยู่ในกรอบ 56.45 - 67.55
เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ที่ 61.16
เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 6.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากไตรมาส 2/2562 ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2562
บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 1,321 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2561
ที่มีกำไรสุทธิ 2,560 ล้านบาท และไตรมาส 2/2562
ที่มีกำไรสุทธิ 507 ล้านบาท
สาเหตุหลักเกิดจากขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ 1,333 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส
4 /2562 มีสัญญาณที่ดีขึ้น
จากการเจรจาทางการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาด
ขณะเดียวกันเตรียมได้รับผลดีจากการที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ International
Marine Organization (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ 0.5%
จากเดิม 3.5% เริ่มตั้งแต่ 1
มกราคม 2563
ซึ่งส่งผลทำให้ความต้องการน้ำมันเตากำมะถันต่ำเพิ่มสูงขึ้นมาก และ IRPC เป็นโรงกลั่นเดียวในประเทศที่มีหน่วยกำจัดกำมะถันในน้ำมันเตา
ซึ่งจะสามารถทำการผลิตได้เต็มที่ โดยบริษัทฯ
รับรู้รายได้จากการจำหน่ายน้ำมันเตากำมะถันต่ำตามมาตรฐานเป็นรายแรกของประเทศแล้วในไตรมาส
3
และคาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการขายเป็นเท่าตัวในไตรมาส 4
จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากความต้องการน้ำมันดีเซล
เพื่อใช้เป็นส่วนผสมน้ำมันเตาให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ IMO กำหนดเพิ่มสูงขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ
จะมีรายได้มากขึ้นจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเม็ดพลาสติกพีพี คอมพาวด์
ในกลุ่มอุตสาหกรรม ยานยนต์
ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเติบโตในระยะยาวด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ
และการซื้อขายเม็ดพลาสติกผ่าน E-commerce platform "Plastket.com"
นายนพดล
ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4/2562
ว่า ตลาดยังคงจับตามองการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา
ซึ่งมีสัญญาณในตลาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
รวมทั้งการกลับมาผลิตของโรงกลั่นหลังการปิดซ่อมบำรุง ทำให้มีความต้องการน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
โดยมีแรงสนับสนุนจากกลุ่มประเทศโอเปก ที่ยังคงมาตรการควบคุมปริมาณการผลิต
เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบต่อเนื่องยาวไปถึงเดือนมีนาคมปีหน้า อีกทั้ง
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงราคา