ก.พลังงานจี้โซล่าร์ฟาร์มเคลียร์ปัญหาภายใน31 มี.ค.ก่อนถูกตัดสิทธิ์
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพลังงานได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ยื่นแสดงความจำนงขอ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนพื้นดิน (โซล่าร์ฟาร์ม) สามารถเข้ายื่นแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการได้ แม้จะเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการตอบรับซื้อไฟฟ้าตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) จำนวน 175 โครงการนั้น พบว่า ยังมีผู้ประกอบการจำนวน 69 โครงการ ที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือติดต่อมายังกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) โดยจำนวน 22โครงการอยู่ในกลุ่มที่ติดปัญหาผังเมืองแต่ไม่ติดปัญหาสายส่ง, 39โครงการ อยู่ในกลุ่มที่ติดปัญหาสายส่งไฟฟ้า และจำนวน 8โครงการ เป็นกลุ่มที่ติดทั้งปัญหาผังเมืองและปัญหาสายส่ง
ในส่วนของกลุ่มที่ไม่ติดปัญหาใดใด จำนวน 25 โครงการ ปริมาณไฟฟ้ารวม 138.35 เมกะวัตต์ นั้น ขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(พีอีเอ)อยู่ระหว่างทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และเตรียมส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สกพ.) รับทราบต่อไป คาดว่าจะทำสัญญาได้ภายในเดือน ก.พ. 2558
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้มอบหมายให้ พพ. ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณาต่อผู้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์ม ที่ติดปัญหาสายส่งหรือติดปัญหาผังเมืองว่า สามารถย้ายที่ตั้งโครงการได้ โดยที่ พพ. จะได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์เบ็ดเสร็จ หรือ วันสต๊อปเซอร์วิส ในการรับเรื่องและประสานงานกับการไฟฟ้าและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ ตรวจสอบพื้นที่โครงการตามขั้นตอน แต่กระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นภายในเดือน 31 มี.ค. 2558
ทั้งนี้หาก 69 โครงการที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวและติดต่อมายัง พพ. เพื่อดำเนินการเคลียร์ปัญหาให้ได้ข้อยุติ ตามกำหนดดังกล่าว ก็จะถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ ( ซีโอดี)ภายในวันที่ 31ธ.ค.2558
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)นั้น ทาง สกพ. ได้ออกระเบียบรับซื้อไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัยเพื่อรับซื้อไฟฟ้าให้ครบ 100 เมกะวัตต์เรียบร้อยแล้ว และทางการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าในส่วนนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2558 เป็นต้นไป
------------------------------