PTTGCศึกษาแผนลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ( Mr. SupattanapongPunmeechaow,
CEO) บริษัทพีทีที
โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุปผลการดำเนินงานในปี 2557บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 15,036 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย
570,224ล้านบาทผลการดำเนินงานบริษัทฯ ในปี 2557
ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่
4 ของปี ทำให้บริษัทฯ ต้องรับรู้ผลจากมูลค่าสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงรวม
15,928 ล้านบาทอย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี
2558
อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 2.37 บาท คิดเป็นร้อยละ
71 ของกำไรสุทธิ
ภาพรวมการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทฯ ปี 2557 สรุปดังนี้
กลุ่มปิโตรเลียมผลการดำเนินงานที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันดิบ ในปี 2557 ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า เนื่องจากมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ร้อยละ 102
ด้านราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2557 ปรับตัวลดลงอย่างมากจากราคาเฉลี่ย 104.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ราคา52.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในช่วงปลายปีตลาดมีความผันผวนมาก ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับต่ำสุด จากอุปทานน้ำมันดิบที่สูงขึ้นเกินความต้องการ เป็นผลมาจาก Shale Oil ในสหรัฐฯ ทำให้มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างมาก ปริมาณเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน
กลุ่มอะโรเมติกส์ผลการดำเนินงานในปี 2557 ปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้า โดย Adjusted EBITDA ลดลงร้อยละ 73 จากการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงและส่วนต่าง (Spread) ราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์กับวัตถุดิบลดลง เหตุผลหลักจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นมากจากผู้ผลิตรายใหม่ ในประเทศจีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์และอินเดีย นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากเบนซีนและพาราไซลีนลดลง ได้แก่ กลุ่มสินค้าอีเล็คทรอนิกส์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น
กลุ่มโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานในปี 2557 ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า เป็นผลจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น และปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาผลิตภัณฑ์ HDPE เฉลี่ยอยู่ที่ 1,544 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อนหน้า และอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานโอเลฟินส์ในปี 2557 อยู่ที่ร้อยละ 91
ความก้าวหน้าโครงการลงทุนในต่างประเทศ
โครงการ Shale Gas ในสหรัฐอเมริกา: บริษัทฯ ศึกษาแผนการลงทุน ปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ เมือง Marcellusเขตตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ โดยโรงงานโอเลฟินส์ ขนาดกำลังการผลิต 1 ล้านตันต่อปี ใช้ก๊าซอีเทนจาก Shale Gas เป็นวัตถุดิบจะตอบสนองความต้องการภายในประเทศอเมริกา ใช้เงินลงทุนประมาณ5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
โครงการลงทุน ปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ในอินโดนีเซียร่วมกับPertamina
PTTGC มุ่งลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ โดยศึกษาการร่วมลงทุนกับ Pertamina เพื่อสร้างโรงงานโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง กำลังการผลิตรวม 1.5 ล้านตันต่อปี รายละเอียดความชัดเจนในการลงทุนจะมีข้อสรุปภายในปี 2558
โครงการ PU Project:การลงทุนครบวงจรในห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์โพลิยูรีเทน
PTTGC ลงทุนซื้อหุ้น Vencorex ในฝรั่งเศส ทำให้ได้เทคโนโลยีการผลิต Isocyanateผลิตภัณฑ์ต้นน้ำในการผลิต
โพลิยูรีเทนนอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมโพลีออล (Polyols) โดยมี
เป้าหมายการลงทุนตั้งโรงงานผลิตโพรพิลีนออกไซด์ (PO) ขนาดกำลังการผลิต 200,000 ตันต่อปี นำไปสู่การผลิตโพลีออล
วัตถุดิบต้นทางสำหรับผลิตภัณฑ์โพลิยูรีเทน ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯโดยจะมีข้อสรุปในปีนี้
ทางด้านโครงการลงทุนในประเทศเพื่อขยายกำลังการผลิตได้มีความคืบหน้าโดยโครงการหลักจะแล้วเสร็จ ภายในปี 2558 ได้แก่ โครงการฟีนอล 2เพื่อผลิตฟีนอล 250,000 ตันต่อปี และ อะซีโตน 155,000 ตันต่อปี
โครงการทีโอซีไกลคอลเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตอีก90,000 ตันต่อปี
โครงการอะโรเมติกส์ 2 กำลังการผลิตพาราไซลีน 115,000 ตันต่อปี เบนซีน 35,000 ตันต่อปี ออร์โธไซลีน 20,000 ตันต่อปี
พีทีที โกลบอล เคมิคอล ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยมีธุรกิจหลัก 7 กลุ่ม ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมีรวม 8.75ล้านตันต่อปี และมีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบและคอนเดนเสทรวม 280,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจสู่ธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ Specialties Chemical) และ ธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green)
-------------------------