นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานแก้ปัญหา PM
2.5 ว่า กระทรวงพลังงานได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหา PM 2.5
ซึ่งเป็นความตั้งใจของกระทรวงพลังงานที่จะระดมสมองในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
โดยคณะทำงานดังกล่าว ประกอบด้วย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท.
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยอื่นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา PM
2.5 เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยต่างๆ
เข้ามาร่วมบูรณาการในการแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับประเทศ
ทั้งนี้
มาตรการที่กระทรวงพลังงานได้นำมาขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหา PM 2.5
นั้น แบ่งเป็น 3 ระยะ ภายใต้ 4 มาตรการ
ได้แก่ ระยะสั้น ช่วงปี 2562-2563 คือ การส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 และ B20 เพื่อลดการปล่อย PM 2.5
จากการปล่อยควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ระยะกลาง ช่วงปี 2563-2565 คือ
การสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อลดการเผาทิ้งวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
และระยะยาว ช่วงปี 2565-2567 คือ การปรับเปลี่ยนมาตรฐานน้ำมันเป็นยูโร 5
และการส่งเสริมการใช้รถยนต์ EV
สำหรับผลที่จะได้รับจากมาตรการแก้ปัญหา
PM 2.5 ในช่วงระยะแรก คือ
การส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 และ B20
นั้น ในส่วนของ B10 จะสามารถลด PM 2.5
ได้ 3.5-13% สำหรับ B20 จะสามารถลดได้ 21-23% ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันดีเซล B10
มีจำนวน 411 สถานี และสถานีบริการน้ำมันดีเซล B20
มีจำนวน 2,743 สถานี