วานนี้ (15 มกราคม 2563)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
(องค์การมหาชน) (สคช.) และคณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
เปิดตัวโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ
สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน สาขางานระบบผลิตไฟฟ้า ณ ห้องกษัตริย์ศึก
โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์
ดร.สุทธิชัย จูประเสริฐพร
รองผู้ว่าการบริหาร กฟผ. กล่าวว่า
อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าถือเป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนประเทศ โดย กฟผ.
ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบดูแลด้านความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้าเล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดทำมาตรฐานอาชีพร่วมกับ
สคช. และ มจธ.
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการเป็นที่ยอมรับในระดับสากลผ่านการให้ข้อมูลจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในงานเดินเครื่อง
(Operation) และซ่อมบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้า (Maintenance)
ของ กฟผ. รวมถึงทักษะการประยุกต์ใช้ของผู้ที่จะปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้าให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลง
เพื่อให้สามารถทำงานได้ทันที
และยกระดับแรงงานฝีมือรองรับสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคต
ปัจจุบัน กฟผ. ยังอยู่ระหว่างศึกษากระบวนการและเตรียมบุคลากรในการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ
(Certify Body) ที่จะดำเนินการหลังการจัดทำมาตรฐานอาชีพแล้วเสร็จ
ด้าน ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ
รักษาการผู้อำนวยการ สคช. กล่าวว่า ภารกิจหลักของ สคช.
คือการร่วมมือกับผู้ประกอบการและกลุ่มคนในอาชีพจัดทำมาตรฐานอาชีพ
เพื่อพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติในแต่ละด้าน
ซึ่งสาขางานระบบผลิตไฟฟ้า เป็นหนึ่งในสาขาเป้าหมายของ สคช.
เนื่องจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580
(PDP2018)
คาดว่าจะมีความต้องการบุคลากรด้านการผลิตสำหรับโรงไฟฟ้าใหม่ประมาณ 7,500 คน
ที่ต้องมีทักษะความรู้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ
อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับภาคการศึกษา
โดยเฉพาะอาชีวศึกษาให้มีทักษะในเชิงเทคนิคพร้อมเข้าสู่การทำงานได้ทันทีหลังจบการศึกษา
รวมถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย
ขณะที่ ผศ.ดร. กูสกานา กูบาฮา
คณบดีคณะพลังงานฯ มจธ. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
มจธ.จะใช้เวลาในการดำเนินโครงการประมาณ 1 ปี
เพื่อให้ทันกับความต้องการของภาคแรงงาน
โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาให้ข้อมูลทั้ง กฟผ.
และภาคเอกชนร่วมกันเขียนมาตรฐานอาชีพขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในปัจจุบัน
แล้วกำหนดเป็นมาตรฐานอาชีพ
โดยจะเริ่มในสาขาอาชีพที่มีบุคลากรเข้ามาเกี่ยวข้องมากที่สุดคือ งานเดินเครื่อง (Operation)
และงานซ่อมบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้า (Maintenance) สำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนและโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม
เมื่อจัดทำมาตรฐานแล้วเสร็จจะจัดทำเครื่องมือในการประเมินเพื่อทดสอบความสามารถของผู้ปฏิบัติงานว่ามีความรู้ความสามารถอยู่ในระดับใด
เพื่อให้สถานประกอบการหรือภาคการศึกษาใช้เป็นแนวทางในการการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรในอาชีพต่อไปในอนาคต