นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ
ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด
และนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานเพื่ออนาคตหลากหลายธุรกิจ ได้แก่
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-พลังงานลม,โรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน,น้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม,รถยนต์-เรือโดยสารไฟฟ้าที่เกิดโดยฝีมือคนไทย,สถานีชาร์จรถไฟฟ้า
เป็นต้น
เน้นธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการด้านพลังงานในอนาคตการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุดที่ผ่านมาบริษัทฯให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นคิดค้นนวัตกรรมที่ต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจในปัจจุบันจากการตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียชุมชนและประเทศ
นำไปสู่เจตจำนงที่จะร่วมสร้างและแบ่งปันความสำเร็จไปด้วยกันทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมจึงเป็นที่มาของแนวคิด
‘นวัตกรรมสังคมองค์กร’ หรือ
Corporate Social Innovation (CSI)
"เราอยากแบ่งปันองค์ความรู้
นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใช้ในบริษัทมาสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เติบโตเข้มแข็งเกิดประโยชน์ร่วมกันในระยะยาวเป็นรากฐานสู่การพัฒนาชุมชนทุกมิติสู่ความยั่งยืนในที่สุดนำร่องด้วยโครงการ
ผลิตสารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM (Phase Change Material) จากน้ำมันปาล์มครั้งแรกในโลก!
โดยนำนวัตกรรม Blockchain มาพัฒนาเป็นplatformเพื่อใช้บันทึกข้อมูลและตรวจสอบการซื้อขายปาล์มตลอดจนปันผลประโยชน์ตอบแทนถือเป็นโครงการ
CSIต้นแบบของบริษัทด้วยงบลงทุนกว่า1,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มมูลค่าของปาล์มและทำให้เกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น"
โดยเชื่อว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นต้องคำนึงถึงความสมดุลย์ของ
3P ได้แก่1.Planetการบริหารพลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โลกใบนี้ใช้เทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
2.Peopleสร้างประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
และ3.Profitการได้รับผลตอบแทนที่ดี
สามารถแบ่งปันผลตอบแทนนั้นกลับสู่วงจรสารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM (Phase
Change Material) คือ
วัสดุที่มีความสามารถในการกักเก็บพลังงานสูง ช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ที่ค่าใดค่าหนึ่งตามแต่สูตรการผลิต
ด้วยการดูดซับและปลดปล่อยพลังงานความร้อน
และเปลี่ยนสถานะสารจากของเหลวเป็นของแข็งและจากของแข็งเป็นของเหลวได้จากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไป
จึงสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบใช้ประโยชน์ในการรักษาอุณหภูมิในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท
เช่น อาคารและการก่อสร้าง, เสื้อผ้า,
บรรจุภัณฑ์, การขนส่ง เป็นต้น
สำหรับ PCM จากน้ำมันปาล์ม
หรือจากแหล่งชีวภาพ (Bio Base) เป็นนวัตกรรมใหม่ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกโดย
EA ซึ่งอยู่ในระหว่างการยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรในระดับโลก
ปัจจุบัน ตลาด PCM โลก มีมูลค่าราว 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
และคาดว่าจะเพิ่มอีก 3 เท่าภายในอีก 5 ปี สำหรับโรงงานผลิต PCM ของ
EA ตั้งอยู่ที่ จ. ระยอง มีกำลังการผลิตอยู่ที่
130 ตัน/วัน เริ่มผลิตเฟสแรกในไตรมาสที่ 2 โดยส่งออกจำหน่ายไปประเทศเยอรมนี
และญี่ปุ่น ทั้งหมด เพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคาร และที่อยู่อาศัย
เป็นส่วนสำคัญในการอนุรักษ์พลังงาน
ด้วยการรักษาอุณหภูมิและลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อนได้ ให้ภายในสิ้นปีนี้ สัดส่วนรายได้ของ PCM
จะอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาทคิดเป็น 3% ของรายได้รวมบริษัทฯ สำหรับสายการผลิต PCM เฟสสองจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
และตั้งเป้าที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 1,000 ตัน/วันภายในอีก 5 ปี
นอกจากนี้ EA ยังพลิกโฉมอุตสาหกรรมปาล์มไทย
ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน ‘ปาล์มยั่งยืน’ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโลก
ที่มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ประกอบการทำธุรกรรมซื้อขายปาล์ม
โดยการลงทะเบียนบันทึกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการซื้อขาย และคุณภาพของวัตถุดิบ
เพื่อใช้ตรวจสอบที่มาและบันทึกการทำธุรกรรมซื้อขายอย่างถูกต้อง
และที่สำคัญสามารถปันผลประโยชน์ส่วนเพิ่มกลับมายังผู้ขายวัตถุดิบในแต่ละขั้นตอนได้หากวัตถุดิบนั้นมีคุณภาพดีจนสามารถนำไปผลิตสาร
PCM ที่มีคุณภาพสูงได้
เป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
ส่งเสริมให้การกำหนดราคาเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างโปร่งใสเป็นธรรมสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนและมีระบบการจ่ายผลตอบแทนที่สามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้อย่างรวดเร็วด้วยวิธีการโอนเข้าบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้
นอกจากนี้ด้วยระบบการบันทึกและตรวจสอบทุกขั้นตอนโดยใช้ Blockchain จึงเป็นการป้องกันการลักลอบนำปาล์มเถื่อนเข้ามาซื้อขายได้
อีกทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย
ภายในงานจัดแสดงนวัตกรรม PCM และ
platform "ปาล์มยั่งยืน" โดยมี
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในงาน
และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้เกียรติร่วมงาน
พร้อมกล่าวถึง ยุทธศาสตร์ความร่วมมือของภาครัฐในการสนับสนุน
และส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืน