นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
(กบง.) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563
ที่กระทรวงพลังงาน โดยที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องสำคัญ ดังนี้ เรื่องแรก
เห็นชอบ การทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยกำหนดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นจากเดิม
17.1795 บาท/กิโลกรัม เหลือ 14.3758
บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาขายปลีก LPG ขนาดถัง 15
กิโลกรัม ราคาลดจาก 363 บาท เหลือ 318
บาท (ลดลง 45 บาทต่อถัง) เป็นระยะเวลา 3 เดือน
โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563
หลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในวันที่ 23
มีนาคม 2563 นี้ เนื่องจาก สถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะเศรษฐกิจ
และภาวะแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ COVID-19 ทั้งนี้ ในอนาคตกระทรวงพลังงาน
สามารถบริหารจัดการ และรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกในประเทศได้
โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ตามกรอบนโยบายการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
2562
ทั้งนี้ ที่ประชุม กบง.
ได้แสดงออกถึงความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชน
ซึ่งกำลังเผชิญกับทั้งภาวะเศรษฐกิจ และการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ COVID-19
จึงมีมติดังกล่าวเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถโดยสารสาธารณะในเขต
กทม. และปริมณฑล รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ
เรื่องที่สอง เห็นชอบ
การให้ความช่วยเหลือราคาขายปลีก NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถทั่วไป
ด้วยปัจจุบันได้เกิดภาวะแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ COVID-19
และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณการจำหน่ายก๊าซ
NGV การคมนาคม ขนส่ง และเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
จึงขอความร่วมมือ ปตท. ให้คงราคาขายปลีก NGV ที่
13.62 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับรถโดยสารสาธารณะ (ในเขต
กทม./ปริมณฑล: รถแท็กซี่/ตุ๊กตุ๊ก/รถตู้ ร่วม ขสมก. ในต่างจังหวัด:
รถโดยสาร/มินิบัส/สองแถว ร่วม ขสมก. รถโดยสาร/รถตู้ ร่วม บขส. และรถแท็กซี่)
ต่อไปอีก 3 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1
พฤษภาคม 2563 – 31 กรกฎาคม 2563) และให้คงราคาขายปลีกก๊าซ
NGV รถทั่วไปที่ 15.31
บาท/กก. ต่อไปอีก 5 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 16
มีนาคม – 15 สิงหาคม 2363) เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน