ก.พลังงาน กางแผนรับมือวิกฤติไฟฟ้าช่วงสงกรานต์นี้

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังร่วมจำลองสถานการณ์วิกฤติไฟฟ้าว่า กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดซ้อมใหญ่แผนฉุกเฉินวิกฤติไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. 2558 นี้ จากกรณีที่ประเทศเมียนมาร์จะปิดซ่อมท่อก๊าซธรรมชาติแหล่งยาดานาและเยตากุน เป็นเวลา 10 วัน ระหว่างวันที่ 10-19 เม.ย. 2558 ซึ่งจะทำให้ก๊าซฯหายไปจากระบบของไทยประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปิดซ่อมแหล่งซอติก้าอีก 8 วันระหว่างวันที่ 20-27 เม.ย. ทำให้ก๊าซฯหายจากระบบไป 430 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าประมาณ 2,600 เมกะวัตต์ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตกของประเทศ

อย่างไรก็ตามได้จัดเตรียมน้ำมันเตา 140 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซล 56 ล้านลิตร สำรองให้กับโรงไฟฟ้าเพื่อใช้ทดแทนก๊าซฯแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถบริหารไฟฟ้าให้ดีที่สุดเพื่อป้องกันเหตุไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับ ซึ่งในปี 2558 นี้สถานการณ์วิกฤติไฟฟ้าไม่น่าห่วงมากนัก เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าหงสา จาก สปป.ลาว เข้าระบบและช่วยจ่ายไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 200-300 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มเป็น 600 เมกะวัตต์ในเดือนมิ.ย. 2558 ต่อไป

"กระทรวงพลังงานเตรียมแผนไว้พร้อมหมดแล้ว เชื่อว่าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ขอประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อไฟฟ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีศูนย์บัญชาการกลาง เพื่อบริหารเชื้อเพลิงตามความจำเป็นไว้พร้อมแล้ว แต่อย่างไรก็ตามประชาชนก็ควรช่วยกันประหยัดไฟฟ้าด้วย โดยเดือนเม.ย. 2558 กระทรวงพลังงานจะจัดเคมเปญใหญ่การประหยัดพลังงานโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย " นายณรงค์ชัย กล่าว

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แผนรองรับความมั่นคงจัดหาก๊าซฯและรองรับกรณีแหล่งก๊าซฯต่างๆปิดซ่อม บำรุงนั้น ทางกรรมการบริหาร(บอร์ด) ปตท.ได้เห็นชอบแผนลงทุน 5 ปี จัดการระบบก๊าซฯประเทศในวงเงินลงทุน 2 แสนล้านบาท ซึ่งได้เสนอแผนมายังกระทรวงพลังงานแล้วประกอบไปด้วย การก่อสร้างท่อก๊าซฯเส้นที่ 5 ,การก่อสร้างคลังแอลเอ็นจีลอยน้ำทั้งฝั่งเมียนมาร์และจังหวัดสงขลา เพื่อช่วยรองรับปัญหาก๊าซเยตากุน และก๊าซแหล่งพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(เจดีเอ)ที่ลดลง รวมถึงแผนการก่อสร้างคลังก๊าซแอลเอ็นจี แห่งที่ 3 อีก 5ล้านตัน ซึ่งก็จะช่วยให้ ประเทศมีการรองรับแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้นได้เป็น 15 ล้านตันต่อปีในอนาคต

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแผนรับมือวิกฤติไฟฟ้าพร้อมแล้ว โดยเปิดศูนย์ติดตามข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง(วอร์รูม) ทั้งภายในกระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(พีอีเอ) การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และปตท. ซึ่งทุกภาคส่วนจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประสานการแก้ไขปัญหาร่วมกันหากเกิดกรณีฉุกเฉินกับระบบไฟฟ้า พร้อมกันนี้เตรียมประสานกับพลังานจังหวัดเพื่อรับมือกับวิกฤติไฟฟ้าในครั้งนี้ด้วย

สำหรับแผนท่อก๊าซฯของ ปตท. ในขณะนี้ อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และคาดจะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เดือน พ.ค. 2558  หากก่อสร้างเสร็จจะทำให้ ท่อก๊าซทั้งหมดเป็นวงต่อเชื่อมกันทั้งระบบ ซึ่งหากแหล่งก๊าซฯใดมีปัญหา หรือมีการปิดซ่อม ก็จะทำให้ก๊าซไม่ขาดแคลนเพราะจะสามารถดึงก๊าซ ทั้งจากการนำเข้าแอลเอ็นจี ก๊าซจากแหล่งตะวันออก ตะวันตก มาทดแทนได้หมด

ส่วนการรับฟังความคิดเห็นประชาชน รอบสุดท้ายเกี่ยวกับแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาวหรือ พีดีพี 20 ปี ฉบับใหม่ กำหนดเลื่อนการรับฟังจากเดือนมี.ค.เป็นเดือนเม.ย. 2558  เพราะจะต้องพิจารณาให้พร้อมโดยเฉพาะเรื่องแผนอนุรักษ์พลังงาน10,000 เมกะวัตต์ ว่าจะดำเนินการได้ จริงหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ต่อโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆว่าจะต้องชะลอไปมากน้อยเพียงใด ซึ่งตามแผนแล้วโรงไฟฟ้าใหม่จะลดการใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงจาก 70% เหลือ 40-50% การใช้ถ่านหินจะเพิ่มจาก 18% เป็น 25% ส่วนพลังงานน้ำและพลังงานทดแทนจะมีสัดส่วน20-25% เป็นต้น

--------------------------