เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท กัลฟ์
เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้มอบหน้ากากทางการแพทย์ KN95
แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลหาดใหญ่
โรงพยาบาลจะนะ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และโรงพยาบาลยะลา เพื่อเป็นการควบคุมโรคโควิด-19
ในระยะยาว
และเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานแนวหน้า
รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์
รองคณบดีฝ่ายโรงพยาบาล และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ กล่าวว่า "แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะดีขึ้น
รัฐผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์แล้ว แต่ทีมแพทย์ พยาบาลของ รพ. ก็ไม่วางใจโดยทาง
รพ.เองก็มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย
เพื่อให้เกิดประโยชน์กับวงการแพทย์ และส่งประโยชน์ไปยังประชาชนที่เดินทางมารักษา
ซึ่งหน้ากาก KN95
ที่ได้รับสนับสนุนมาจะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก
เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่ยังหายากอยู่ ทางรพ.ยังต้องใช้อย่างประหยัด
มีการใช้ซ้ำโดยผ่านกรรมวิธีซัก อบฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน และนำกลับมาใช้ใหม่ ต้องขอขอบคุณทางกลุ่มบริษัทกัลฟ์ที่ให้ความสำคัญกับวงการแพทย์พยาบาลครับ"
ด้านพญ.กนกพร ราชแพทยาคม
แพทย์ประจำโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19
จะคลี่คลาย ทีมแพทย์พยาบาลก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการติดตามการระบาดของโรคต่อไป
ทั้งนี้ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลจะนะทำงานแบบเชิงรุก โดยได้มีการลงพื้นที่ไปพบประชาชน
ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่อ.จะนะ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้
ดังนั้นการได้รับหน้ากาก KN95
มาก็เป็นการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ มีประโยชน์เป็นอย่างมาก
ในนามตัวแทนของโรงพยาบาลต้องขอขอบคุณกลุ่มบริษัทกัลฟ์ที่ร่วมช่วยเหลือ และขอขอบคุณแทนประชาชนที่มาใช้บริการด้วยค่ะ
ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
กลุ่มบริษัทกัลฟ์ได้เข้าไปช่วยเหลือในหลายภาคส่วน อาทิ
บริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร สถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลพุทธชินราช
มอบเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแก่โรงพยาบาลขนาดเล็กในจังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา
มอบหน้ากากทางการแพทย์ KN95 รวม 100,000 ชิ้น
ให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
และกรมแพทย์ทหารเรือ บริจาคหน้ากากผ้าแก่ชุดปฏิบัติการคัดกรองผู้ป่วยระดับตำบล
ในพื้นที่ 10 จังหวัด และอสม.
รวมถึงดำเนินการมอบข้าวกล่องให้กับชุมชนแออัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
อีกทั้งร่วมกับกฟผ. มอบถุงยังชีพแก่ชุมชนในพื้นที่จ.นนทบุรี
นอกจากนี้ยังขยายความช่วยเหลือไปยังช้างไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านการบริจาคให้แก่โครงการโอบช้าง
โดยกลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ต่อไป