นายวิทูร ซื่อวัฒนากุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC กล่าวว่า
การจัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563
เพื่อชี้แจงถึงผลการดำเนินธุรกิจประจำปี 2562
แก่ผู้ถือหุ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เริ่มคลี่คลาย บริษัทได้ชี้แจ้งถึงผลการดำเนินงานในรอบปี 2562
ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 94 ล้านบาท
และได้มีการพิจารณาจัดสรรกำไรเป็นทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 32,024,000
บาท และการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2 ครั้ง รวมหุ้นละ 0.35
บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 358.3 ล้านบาท
โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม
2562 และ 23 เมษายน 2563
ทั้งนี้จะไม่มีการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี 2562
เพิ่มเติมอีก
ส่วนแผนการกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทฯ
ในอนาคต ยังคงมุ่งเน้นแผนกลยุทธ์ในการเติบโต
เพื่อความเป็นผู้นำในด้านธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก
คือ เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) เคมีชีวภาพ (Biochemicals) และ
พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) โดยตั้งเป้าว่าในปี 2567
บริษัทฯ จะสามารถสร้างสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuels)
35% เคมีชีวภาพและพลาสติกชีวภาพ (Biochemicals + Bioplastics) 65%
ด้านการลงทุนในโครงการสำคัญ บริษัทฯ
ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงงาน Refined
Glycerinแห่งที่ 2
ในจังหวัดชลบุรี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2563
ตามแผน เพื่อรองรับความต้องการของกลีเซอรีนที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันของอุตสาหกรรมด้านสุขอนามัย
ขณะที่โครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ระยะที่
1 ล่าช้าไปกว่าแผนที่วางไว้
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
และมาตรการการปิดเมือง (Lockdown) ทำให้เครื่องจักรที่มีการสั่งซื้อจากต่างประเทศไม่สามารถขนส่งมายังบริษัทฯ
ได้ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงไตรมาส 4 /2564
ส่วนโครงการระยะที่ 2
อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและรอการตอบรับจากผู้ที่สนใจ
สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังขาดหายในเดือนพฤษภาคม
2561 นายวิทูร ได้กล่าวชี้แจงความคืบหน้าของคดีว่า
บริษัทฯ ได้ดำเนินการทางวินัยกับพนักงานที่กระทำผิดเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2561
และขณะนี้อยู่ในกระบวนการด้านกฎหมายทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
พนักงานสอบสวนสามารถสรุปสำนวนคดี
และได้เริ่มทยอยแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดบางรายแล้วเพื่อทวงคืนความเสียหายจากคู่ค้าและผู้กระทำผิดทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการเจรจากับคู่ค้า 2 ราย
โดยคู่ค้าดังกล่าวได้ยอมรับความผิดและยินยอมส่งมอบวัตถุดิบค้างส่ง จำนวนประมาณ 22,800
ตันคืนให้แก่บริษัทฯ และได้จดทะเบียนจำนองที่ดินประมาณ 44
ไร่เป็นหลักประกันการชำระหนี้ โดยในปี 2562 บริษัทฯ
ได้รับคืนวัตถุดิบจากคู่ค้าเป็นจำนวนเงิน 16
ล้านบาท รวมทั้งมีการติดตามให้คู่ค้าดังกล่าวส่งมอบวัตถุดิบค้างส่ง
คืนให้แก่บริษัทฯ ตามแผนการจัดส่งต่อไป ส่วนกลุ่มคู่ค้าที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา
บริษัทฯ จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสอบสวนและดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีอาญาแก่คู่ค้าเหล่านี้
และเมื่ออัยการดำเนินการยื่นฟ้องคดีอาญาต่อคู่ค้า บริษัทฯ จะเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯ
มีการปรับปรุงระบบการจัดซื้อวัตถุดิบ การเก็บวัตถุดิบและการกลั่น
รวมทั้งมีการตรวจนับวัตถุดิบอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้สามารถดูแลควบคุมปริมาณการเก็บวัตถุดิบได้อย่างรัดกุมและถี่ถ้วน
อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีการปรับปรุงนโยบายการรับเรื่องร้องเรียน (Whistleblower
Policy) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มุ่งเน้นการให้ความสำคัญต่อการปกป้องคุ้มครองผู้ร้องเรียน
โดยมีการเก็บข้อมูลของผู้ร้องเรียนไว้เป็นความลับในระดับชั้นความลับมาก (Strictly
Confidential) และมีกลไกในการติดตามความคืบหน้าอย่างเป็นระบบ
รวมถึงการแจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่อผู้ร้องเรียน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ
ให้ความสำคัญกับทุกข้อร้องเรียนที่ได้รับแจ้งมา
ทั้งนี้
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทฯ
ได้ดำเนินมาตรการป้องกันตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
และประกาศกรุงเทพมหานครฯ อย่างเคร่งครัด โดยจัดเตรียมสถานที่สำหรับการตรวจคัดกรองและลงทะเบียนที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
พร้อมนำนวัตกรรมตู้พ่นฆ่าเชื้อ (CoviClear)ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท พีทีที
โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCมาใช้ในการฆ่าเชื้อ
เพื่อดักจับไวรัสและเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย
บริษัทฯ
ยังได้มีการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือหุ้นที่มอบฉันทะและไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ด้วยตนเอง
สามารถรับชม VDO ย้อนหลังได้ ผ่านทางเว็บไซต์ www.ggcplc.com
ซึ่งในปีนี้มีผู้ถือหุ้นที่เดินทางมาประชุมด้วยตนเอง จำนวน 31
ราย และ มอบฉันทะ 69 ราย รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 100
ราย