นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิกเผยว่า สถานการณ์ราคา LPG ในตลาดโลก
(LPG Cargo) ยังคงมีความผันผวน
ราคาขึ้นลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยราคาได้ปรับลงจาก 255 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
ในเดือนมีนาคม 2563 ลงเหลือ 206 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
ในเดือนเมษายน 2563 และเพิ่มขึ้นเป็น 269 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
ในเดือนพฤษภาคม 2563 ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2563 เพิ่มขึ้นเป็น
315 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน และกลางเดือนมิถุนายน 2563
เพิ่มขึ้นเป็น 321 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
ประมาณการสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของก๊าซ LPG มีรายจ่ายตั้งแต่เดือนมีนาคม
ถึง กลางเดือนมิถุนายน -476 , -400 , -44 , -248 , -236 ล้านบาทต่อเดือน
ตามลำดับ
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)
ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563
ได้มีมติเห็นชอบให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อขายก๊าซอยู่ที่
14.3758 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกเป็น 18.87
บาทต่อกิโลกรัม หรือราคาขายปลีกบรรจุถัง 15 กิโลกรัมอยู่ที่ 318
บาทต่อถัง เป็นเวลา 3 เดือน (24
มิถุนายน – 30 กันยายน 2563)
ด้วยสภาวการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยและส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน
กอปรกับราคาราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก (LPG Cargo) ยังไม่สูงมากนัก
เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน
2563 มีมติเห็นชอบคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อขายก๊าซอยู่ที่
14.3758 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกเป็น 18.87
บาทต่อกิโลกรัม หรือราคาขายปลีกบรรจุถัง 15 กิโลกรัมอยู่ที่
318 บาทต่อถัง ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน
– 30 กันยายน 2563
ประมาณการสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ในส่วนของกลุ่มก๊าซ LPG มีรายจ่ายวันละ 7.87
ล้านบาท หรือมีรายจ่ายประมาณเดือนละ 236 ล้านบาท
ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ
วันที่ 21 มิถุนายน 2563 มีจำนวนสุทธิ
34,199 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นประเภทน้ำมัน 40,617
ล้านบาท ประเภท LPG ติดลบ 6,418 ล้านบาท