นายชวลิต ทิพพาวนิช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท.
เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีรายได้ 18,138
ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,896 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 รายได้จะลดลง 1% แต่กำไร
เพิ่มขึ้น 20% และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562
บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ ไม่รวมค่าตัดจำหน่าย (Adjusted Net Income) 2,264
ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57% ทำให้ผลการดำเนินงานงวด 6
เดือนแรกปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย. 63) บริษัทฯ
มีรายได้ 36,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%
และมีกำไรสุทธิไม่รวมค่าตัดจำหน่าย 4,212 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 77%
เมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ
ในช่วง 6 เดือนในปีนี้เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการรับรู้ผลประกอบการจากบริษัท
โกลว์ พลังงาน จำกัด (GLOW) เต็ม 6 เดือนในปี
2563 ในขณะทีในช่วง 6
เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯ รับรู้รายได้จาก GLOW เพียงแค่
3 เดือนเศษเท่านั้น นอกจากนี้
ยังมีการรับรู้กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าศรีราชาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
เนื่องจากค่าความพร้อมของโรงไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว
และการปรับโครงสร้างรายได้จากสัญญาเช่าการเงิน
รวมถึงผลบวกจากปัจจัยของราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงตามสภาวะตลาด
นอกจากนี้ บริษัท โกลว์ ไอพีพี 3
ได้รับค่ารอนสิทธิในที่ดินสำหรับการสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูง 500 kV ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.) เป็นเงิน 223 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการ Synergy
ระหว่าง GPSC และ GLOW ที่เริ่มส่งผลบวกต่อผลประกอบการ
รวมไปถึง ปริมาณการใช้ไฟฟ้า และไอน้ำของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมไม่ได้รับผลกระทบมากนักในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19"
นายชวลิตกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในรายละเอียดของไตรมาส
2/2563 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563
ที่มีกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากหลายปัจจัย
ในส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) มีการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า
IPP ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล
และรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าห้วยเหาะ สปป. ลาว ในส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก
(SPP) กำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่
1
เนื่องจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น ในส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก
(VSPP) กำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าของบริษัท
โกลบอล รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ จำกัด (GRP) และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
อิจิโนเซกิ-1 (ISP-1) รวมไปถึงรายได้จากการให้บริการรับเหมาออกแบบ
และก่อสร้างของบริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด (CHPP)
นายชวลิตยังกล่าวถึงความคืบหน้าในด้านการพัฒนานวัตกรรมพลังงาน
โดยล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ
ได้อนุมัติให้มีการลงทุนศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยกักเก็บพลังงาน (R&D
Center) ในวงเงิน 230
ล้านบาท สำหรับทดสอบความปลอดภัยของหน่วยกักเก็บพลังงาน
เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) มากยิ่งขึ้น
โดยในส่วนโรงงานผลิตกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
และคาดว่าจะสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปีนี้