นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ที่มีจำหน่ายในประเทศ
แบ่งเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี
7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 โดยน้ำมันดีเซลทั้ง 3 ประเภท มีคุณภาพเหมือนกันทุกประการ
แต่มีความแตกต่างกันที่สัดส่วนผสมไบโอดีเซล คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดามีสัดส่วนไบโอดีเซล
10% น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 7% และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี20
มีสัดส่วนไบโอดีเซล 20%
การที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ผสมไบโอดีเซลในสัดส่วนร้อยละ
10 โดยปริมาตร เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วพื้นฐานของประเทศ และให้เรียกว่า "น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา"
ซึ่งสามารถใช้ได้กับรถยนต์ส่วนใหญ่ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นไป
โดยกำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 7 (B7) ใช้สำหรับรถเก่าและรถยุโรป
และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 (B20) สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากผลผลิตทางการเกษตรให้มากขึ้น
โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มดิบที่มีราคาตกต่ำและล้นตลาด และยังช่วยลดมลพิษ ปริมาณฝุ่น PM
2.5 เนื่องจากการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนที่สูงขึ้น
การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา
กับเครื่องยนต์ที่สามารถรองรับการใช้งานจะไม่มีผลกระทบกับเครื่องยนต์ เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ให้การรับรองการใช้งานไว้เรียบร้อยแล้ว
โดย สามารถตรวจสอบรุ่นรถ ได้จากเว็บไซต์กรมธุรกิจพลังงาน www.doeb.go.th หรือ
ศูนย์บริการหรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของผู้ผลิตรถยนต์แต่ละยี่ห้อ
รถยนต์ที่ไม่สามารถเติมน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้ เช่น รถที่มีอายุการใช้งานมานานแล้ว
ยังสามารถเติมน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 (B 7) ได้
ซึ่งยังมีจำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมัน
ทั้งนี้
ได้ขอความร่วมมือสถานีบริการน้ำมันให้ทำความเข้าใจกับผู้ใช้รถยนต์ในช่วงการปรับเปลี่ยน
ทั้งในรูปแบบของการแจกเอกสาร การตั้งป้ายหน้ารถ และการสอบถามความต้องการของผู้ใช้บริการให้เกิดความชัดเจน