นายสุวัฒน์ กมลพนัส กรรมการผู้จัดการ
บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า GGC ก้าวสู่บริษัทชั้นนำด้านองค์กรความอย่างยั่งยืนอีกขั้น
ล่าสุดขึ้นสู่ระดับโลกเป็นปีแรก
นับเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โอลีโอเคมี
และธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับที่การจัดอันดับจาก United
Nations Global Compact หรือ UN Global Compact โดยองค์การสหประชาชาติ
(United Nations; UN) เป็น 1 ใน 41
องค์กรระดับโลกให้อยู่ในระดับสูงสุด (LEAD)ในฐานะองค์กรสมาชิกที่สามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
มีนโยบายให้สอดคล้องกับหลักการที่เป็นสากล
จากความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ
ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน
ภายใต้วิสัยทัศน์ " เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน" มาอย่างต่อเนื่องกว่า
4 ปี ส่งผลให้ในปี 2020 GGC ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับสูงสุด
(LEAD) ในฐานะสมาชิกที่ปฏิบัติตามข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ
โดย GGC ได้นำแนวคิดเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาวางกลยุทธ์และนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ยกระดับมาตรฐานการทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล มุ่งขยายผลไปยัง ห่วงโซ่อุปทาน ดำเนินงานตามหลักการสากล 10
ประการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDGs ของโลกที่ครอบคลุม 4
ด้านที่สําคัญ ได้แก่ เรื่องสิทธิมนุษยชน (Human Rights) เรื่องแรงงาน
(Labour) เรื่องสิ่งแวดล้อม
(Environment) และเรื่องการต้านทุจริต (Anti-Corruption)
รวมไปถึงการดำเนินแผนงานที่เกี่ยวข้องกับด้านสังคม
นับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและการร่วมแรงร่วมใจของพนักงานทุกคนที่มีเป้าหมายชัดเจนในการกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กรและดำเนินการเพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืน
โดยผู้บริหารของ GGC มีโอกาสได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์
กลยุทธ์ในการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อสมาชิกสหประชาชาติ ในหัวข้อ Shaping
our Working Poverty ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาด้านสิทธิมนุษยชน
รวมถึงการขจัดความยากจนในห่วงโซ่อุปทาน โดย GGC ได้แบ่งปันประสบการณ์ความรู้ความเข้าใจในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ
การแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ มีผู้บริหารจากภาคธุรกิจเอกชนจากหลากหลายประเทศ
เช่น ประเทศอิตาลี ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประเทศเคนยา
ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และความร่วมมือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน แห่งสหประชาชาติ
เรื่องสิทธิมนุษยชน (Human
Rights) บริษัทฯ ได้มีการกำหนดนโยบาย ด้านสิทธิมนุษยชน
และกระบวนการติดตามสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
เพื่อสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากกิจกรรมของบริษัทฯ
ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนผ่านการดำเนินธุรกิจที่เป็นธรรมและ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าและป้องกันผลกระทบทางลบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
เรื่องแรงงาน (Labour) พนักงาน คือ
ทรัพยากรหลักที่สำคัญของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ
จึงใส่ใจมุ่งเน้นการบริหารจัดการพนักงานให้ครอบคลุมการพัฒนาความรู้ความสามารถ การสนับสนุนความก้าวหน้าในอาชีพของพนักงาน
การไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของพนักงานและการคำนึงถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีของพนักงาน
การไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องการจ้างงาน อันนำธุรกิจไปสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
เรื่องสิ่งแวดล้อม (Environment)
บริษัทฯ บริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้นโยบายคุณภาพ ความมั่นคง
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและความต่อเนื่องทางธุรกิจ
และนโยบายการบริหารจัดการด้านการอนุรักษ์พลังงาน
รวมทั้งดำเนินงานตามกฏหมายข้อบังคับและมาตรฐานทั้งในระดับประทศและระดับสากล
เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคมตลอดห่วงโซ่คุณค่า
เรื่องการต้านทุจริต (Anti-Corruption)
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการอย่างยั่งยืน โดยดำเนินงานตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ และแนวปฏิบัติที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน
มุ่งมั่นยกระดับให้การกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยคำนึงถึงความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้บริษัทฯ
ยังได้มีการวางกลยุทธ์ในการบริหารจัดการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ได้แก่ "3 Big Moves
Strategy" คือ
การยอมรับ (Recognition) ซึ่งมุ่งเน้นการขยายการรับรู้ในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคของบริษัทฯ
ต่อผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง การเติบโต (Growth)
ขยายความสามารถในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทฯ
เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมหรือตอบสนองความต้องการของสังคมผ่านกระบวนการทางธุรกิจ
ความเชื่อใจ (Trust) สร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
United Nations Global Compact หรือ
UN Global Compact โดยองค์การสหประชาชาติ (United
Nations; UN) ก่อตั้งขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่งเสริมให้องค์กรทุกภาคส่วนทั่วโลกตระหนักและร่วมกันนำแนวคิดเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในแต่ละประเทศ
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลัง
ยกระดับมาตรฐานการทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลโดยเน้นแกนหลัก 4 ด้าน
คือ สิทธิมนุษยชน มาตรฐานแรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต