ตารางน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ (เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล)
หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท
ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก ได้แก่
· บริษัท AstraZeneca ของอังกฤษ
ร่วมกับมหาวิทยาลัย Oxford ประกาศการทดสอบวัคซีนป้องกัน COVID-19
มีประสิทธิผลเฉลี่ยอยู่ในระดับ 70% (ฉีด 2 โดส อยู่ที่ 62% และ 1.5 โดส อยู่ที่
90%)
· ทางการสหรัฐฯ
แจ้งเริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจบริหารสู่ว่าที่ประธานาธิบดี นาย Joe Biden ขณะที่นาย
Biden ประกาศเตรียมเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี
พร้อมควบคุมวิกฤติ COVID-19 และเยียวยาเศรษฐกิจ
· บริษัท Shell ในไนจีเรียประกาศเหตุสุดวิสัย
(Force Majeure) การส่งมอบน้ำมันดิบ Brass River (กำลังการผลิต
100,000 บาร์เรลต่อวัน) เมื่อ 24 พ.ย. 63 เนื่องจากเกิดเหตุระเบิดท่อขนส่ง
สำหรับปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ ได้แก่
· Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะ
(Rig) น้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 25 พ.ย. 63
เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 10 แท่น มาอยู่ที่ 241 แท่น
โดยแนวโน้มราคาน้ำมัน ตลาดน้ำมันเป็นขาขึ้น
ด้วยแรงหนุนจากกระแสข่าววัคซีน โดย AstraZeneca นับเป็นผู้พัฒนาลำดับที่
3 ซึ่งสามารถรายงานความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ด้านภูมิรัฐศาสตร์
อิหร่านประกาศจะ "ล้างแค้น" อิสราเอล
หลังจากนักวิทยาศาสตร์ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์คนสำคัญ ถูกลอบสังหารในกรุงเตหะราน
เมื่อ 27 พ.ย. 63 ให้ติดตามการประชุมของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร
(OPEC+) ในช่วง 30 พ.ย.- 1 ธ.ค. 63
ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ากลุ่ม OPEC+ จะขยายระยะเวลาการลดปริมาณการผลิตน้ำมันที่ระดับ
7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปถึงไตรมาส 1/64 จากแผนเดิมซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค.
63