นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WPกล่าวว่า
"ตลอด 40 ปีในการดำเนินธุรกิจ
เวิลด์แก๊สไม่เคยหยุดนิ่งในการส่งมอบพลังงานสะอาดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้พลังของการคิดบวก
พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการบริการ ผ่านความรู้และประสบการณ์อันยาวนาน
เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง
เรายังคงมองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทั้งด้านสินค้า บริการ รวมถึงรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ
ที่สามารถนำมาพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น
นี่จึงเป็นที่มาให้เราต่อยอดจากธุรกิจก๊าซแอลพีจีซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเราในปัจจุบัน
และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซแอลพีจี ขยายโอกาสมาสู่การทำธุรกิจอื่นๆ
อย่างธุรกิจอาหารซึ่งเป็นการสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ ๆ และกระจายความเสี่ยง
ด้วยความเชื่อมั่นในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำอาหารและการบริหารธุรกิจอาหารของพันธมิตรทางธุรกิจของเราอย่างบริษัท
วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ "เชฟแอนดี้"
ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องสร้างสรรค์และบริหารงานธุรกิจอาหารหลากหลายรูปแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงชื่อเสียงของเชฟในการสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยจนได้ดาวมิชลินมาแล้วทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา
ทำให้ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ เชื่อมั่นว่าวันเดอร์ฟู้ดจะสามารถสร้างผลกำไรได้ปีละ
กว่า 10% ของกำไรรวมของบริษัทฯ
และสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ได้ในด้วยสัดส่วนของกำไร 40%
ของบริษัท ภายใน 5 ปีได้อย่างแน่นอน"
นายนพวงศ์ โอมาธิกุล
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
กล่าวถึงแผนธุรกิจของแบรนด์ "วันเดอร์ฟู้ด" ว่า
"วันเดอร์ฟู้ด
มุ่งสร้างสรรค์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารแบบครบวงจร ด้วยระบบการทำงานมาตรฐานอุตสาหกรรม
มีการใช้ระบบ value chain มีครัวกลางและระบบโลจิสติกส์ เพื่อรักษาคุณภาพอาหาร
บริหารต้นทุน และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563
บริษัทฯ ได้ลงทุนเบื้องต้นประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อสร้าง 4 แบรนด์ร้านอาหารในเครือวันเดอร์ฟู้ด
ได้แก่ แบรนด์ระดับมิชลินสตาร์อย่าง "Table38" ที่นำเสนอประสบการณ์สุดล้ำของเมนูสตรีทฟู้ดไทยสไตล์เชฟแอนดี้
เปิดดำเนินการที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่แล้ววันนี้
ควบคู่กับแบรนด์ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่นน้องใหม่ล่าสุดอย่าง "Pi Kun (ปีกุน)"
นำเสนอเมนูอาหารอีสานทานง่ายในรูปแบบของทาปาสพอดีคำในสไตล์ สแปนิช รวมถึงคาราวานอาหารสตรีทฟู้ด 2
แบรนด์ที่เน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะ ได้แก่ "ผัดไทยไฟทะลุ" ผัดไทยรสชาติจัดจ้านทั้งรูป
รส กลิ่น เสียง และสัมผัส และ "Hungry Rabbit" ข้าวซอยเพื่อสุขภาพกับรสชาติอร่อยแบบเข้มข้น
โดยจะมีการเปิดร้านแฟล็กชิพใจกลางเมืองแห่งแรกที่สยามสแควร์ในเดือนมกราคมนี้ หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดร้านผัดไทยไฟทะลุ
ในเครือวันเดอร์ฟู้ดแห่งแรกที่ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ โดยวันเดอร์ฟู้ด
จะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ระดับกลางขึ้นไปที่มีความสนใจและชื่นชอบในการเปิดรับประสบการณ์ใหม่
ๆ ในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ปรุงด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่และกรรมวิธี
ที่มีคุณภาพ จากฝีมือของเชฟมิชลินสตาร์ ในราคาที่สมเหตุสมผล"
นอกจากนี้วันเดอร์ฟู้ดยังวางแผนรองรับธุรกิจดิลิเวอรี่
ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
โดยจะมีการเปิดสาขาเพื่อรองรับธุรกิจดิลิเวอรี่โดยเฉพาะ ซึ่งบริษัทฯ
ยังได้เตรียมงบประมาณไว้ราว 50 ล้านบาท สำหรับแผนการต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น ๆ
หลังจากแบรนด์ติดตลาดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการรับจัดเลี้ยง
ธุรกิจการผลิตและส่งวัตถุดิบ รวมถึงอาหารสำเร็จรูปให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กร เช่น
โรงแรมและสายการบิน รวมถึงการเปิดแฟรนไชส์ของธุรกิจแต่ละแบรนด์ในเครือไปยังต่างจังหวัด
และต่างประเทศ ฯลฯ
เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล หรือ "เชฟแอนดี้
ยัง" กล่าวว่า "วันเดอร์ฟู้ดคือบริษัทด้านอาหารที่เกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญระหว่างบริษัท
ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจและเงินทุน กับบริษัท วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล
จำกัด
ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการประกอบธุรกิจในด้านอาหารทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศตั้งแต่ไฮเปอร์
ไฟน์ไดนิ่งระดับมิชลินสตาร์จนถึงสตรีทฟู้ดมาใช้ในการรังสรรค์เมนูที่แปลกใหม่
และวางระบบในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพ
โดย "วันเดอร์ฟู้ด"
จะเน้นนำเสนอประสบการณ์ด้านอาหารที่แปลกใหม่ในรูปแบบคาราวานอาหารที่คัดสรรเมนูสตรีทฟู้ดในเมนูที่คนไทยมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีภายใต้แบรนด์ใหญ่ของวันเดอร์ฟู้ด
โดดเด่นด้วยกรรมวิธีในการคัดสรรวัตถุดิบ และกรรมวิธีในการประกอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ด้วยฝีมือของเชฟชาวไทยระดับมิชลินสตาร์ เพื่อคนไทยทุกคนว่าจะเป็นเพศ วัย
หรืออาชีพไหน ก็สามารถรับประทานอาหารสะอาด ดีต่อสุขภาพ
และรสชาติจัดจ้านได้อย่างเท่าเทียมกันภายใต้ปณิธาน "อาหารมาตรฐานระดับเชฟมิชลินสตาร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนไทยทุกคน"
"ซึ่งในทุกเมนูและทุกขั้นตอนการผลิตของคาราวานแบรนด์อาหารต่างๆ
จากวันเดอร์ฟู้ดจะเน้นการรังสรรค์อาหารที่มีรสชาติจัดจ้านและไม่ใส่ผงชูรส
รวมถึงมีการนำนวัตกรรมด้านอาหารมาใช้อย่างการใช้คลื่นเสียงในการปรุงอาหารเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการเป็นต้น
นอกจากนี้ซอสที่ใช้ในการปรุงเมนูต่างๆ
ยังถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะจากวิธีการทางธรรมชาติ เพื่อให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่
และดีต่อสุขภาพ โดยเราเชื่อมั่นว่า "วันเดอร์ฟู้ด" เป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คนไทยได้เห็นคุณค่าของวัตถุดิบและความเป็นไทย
พร้อมทั้งทำให้อาหารสตรีทฟู้ดของไทยเป็นที่รู้จักในฐานะแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาลิ้มลอง
กระตุ้นธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนในอนาคตหากสถานการณ์การเดินทางระหว่างประเทศกลับมาเป็นปกติ"เชฟแอนดี้
กล่าว