นางสมฤดี ชัยมงคล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านปูได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ไม่มีหลักประกันจากทริสเรทติ้งที่ระดับ "A+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต
"Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงอนาคตธุรกิจที่ยังคงเติบโตอย่างมั่นคงของบ้านปู
ตั้งแต่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ
ที่บ้านปูได้ลงทุนในแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติบาร์เน็ตต์เสร็จสิ้นไปในปีที่ผ่านมา
ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มทั้งกำลังการผลิตและปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติที่พิสูจน์แล้วจากแหล่งก๊าซธรรมชาติเดิมที่มี
สำหรับอุตสาหกรรมถ่านหิน อุปสงค์ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังประเทศต่าง ๆ
ทั่วโลกเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานของบ้านปู
ก็ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดที่แน่นอน อันดับเครดิตนี้ยังสะท้อนการปรับกลยุทธ์ของบริษัทฯ
ที่จะเป็นผู้ผลิตพลังงานแบบครบวงจรซึ่งมุ่งเน้นพลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้นด้วย
ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่"
สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า บริษัทฯ
จะยังคงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานต่อไป ด้วยวินัยทางการเงินและการบริหารเงินสดที่แข็งแกร่ง
"บ้านปูรู้สึกยินดีที่
ทริสเรตติ้งมีความเชื่อมั่นในองค์กร และยังคงเครดิตระดับ "A+" แม้ว่าสถานการณ์โลกภายนอกมีความท้าทายและผันผวน
รวมไปถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจครั้งสำคัญ (Banpu
Transformation) ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
เพื่อให้สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
รวมทั้งสามารถตอบสนองความต้องการแห่งอนาคตภายใต้ยุค Never Normal ที่ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
โดยเรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อส่งมอบ "อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน
(Smarter Energy for Sustainability)" ให้กับโลกภายใต้กลยุทธ์ Greener
& Smarter & Faster โดยนำระบบดิจิทัล เทคโนโลยี
และนวัตกรรมล้ำสมัยมาใช้ในภาคส่วนต่าง ๆ ขององค์กร
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Customer Centric) ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"
นอกจากนี้
เรายังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ซึ่งคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม
(Environment) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี
(Governance) อันเป็นสิ่งที่บริษัทฯ
ปฏิบัติมาตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ
เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
รวมถึงผลประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มใน 10 ประเทศที่บริษัทฯ
ดำเนินธุรกิจ