ไออาร์พีซี ปรับแผนลงทุน5ปี วงเงิน 28,000 ล้านบาท
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการปรับแผนลงทุน 5ปี ซึ่งจะใช้ตั้งแต่ปี 2559-2563 ที่ปกติจะต้องมีการทบทวนแผนทุกปี โดยแผนลงทุนดังกล่าว จะยังยึดกรอบวงเงินลงทุนเอาไว้ที่ประมาณ28,000 ล้านบาท เช่นเดิม โดยแบ่งเป็นโครงการลงทุนต่อเนื่อง และโครงการใหม่ อาทิ โครงการUHVยังต้องการเงินลงทุนอีก 1 หมื่นล้านบาท และโครงการขยายโพลีโพรพิลีน(พีพี) เป็น 7.75 แสนตันต่อปี ใช้เงินลงทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ไออาร์พีซีจะมุ่งไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการออกผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดพิเศษ หรือSpecialty Products จะมีเพิ่มมากขึ้น โดยหวังที่จะเพิ่มสัดส่วนของกำไรที่มาจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพิ่มเป็น 60%จากปกติที่มีสัดส่วนประมาณ 35% หรือเพิ่มขึ้นประมาณปีละ5% ซึ่งมีการหารือกับพันธมิตรของบริษัท ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมอยู่แล้ว เช่นทางบริษัท Nippon A&L , บริษัท PCC ROKITA ของโปแลนด์ และบริษัทUBE Chemical บริษัท ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ ออกสู่ตลาด หลังจากที่ค่อนข้างจะได้รับการตอบรับที่ดี จากการออกผลิตภัณฑ์ ที่ทำจากเม็ดพลาสติกที่เป็น Green ABS ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนไม่มากนัก แต่จะมีมาร์จิน ที่สูงกว่า ผลิตภัณฑ์ทั่วไปของบริษัท
ในแผนลงทุน5ปี บริษัทยังจะเน้นการลงทุนเฉพาะในประเทศ เพราะจุดเด่นของไออาร์พีซีอยู่ที่การเป็น Fully Integrated Petrochemical ที่ต่างจากไทยออยล์ หรือพีทีที โกลบอลฯ แต่มีจุดเสียเปรียบตรงที่โครงการแต่ละยูนิตมีขนาดเล็ก ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูง ดังนั้นจำเป็นต้องปรับปรุงการผลิตให้เป็น Specialty Products โดยการต่อยอดจากพันธมิตรที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่แล้ว จะทำให้การออกผลิตภันฑ์สู่ตลาดทำได้เร็วกว่า ที่บริษัทจะไปทำการวิจัยและพัฒนาเอง
สำหรับการลงทุนส่วนที่เหลือในปีนี้นั้น คาดว่าโครงการปรับปรุงคุณภาพการผลิตสู่ผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ ทำให้บริษัทมีกำลังกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 2.1 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.8 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ต้นทุนลดลง ได้น้ำมันใสและวัตถุดิบปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น โดยโครงการยูเอชวีจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนภายในปี 2559 โดยสามารถช่วยให้บริษัทมีค่าการกลั่นรวม(Gross Integrated Margin - GIM) เพิ่มขึ้นปริมาณ 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากในช่วง 4 เดือนแรกของปี2558 ค่าการกลั่นรวมของบริษัทอยู่ที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล นอกจากนี้ บริษัทยังหวังว่าการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี น่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตขึ้นและความต้องการใช้
...............