บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
หรือ BGRIM หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
โดย ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม
เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บริษัท
บี.กริม เพาเวอร์ (แหลมฉบัง) 1 จำกัด
ในวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 9.59 น. ณ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง
จังหวัดชลบุรี
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ เปิดเผยว่า บริษัท
บี.กริม เพาเวอร์ (แหลมฉบัง) 1 จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง
ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง
ภายใต้รูปแบบโรงไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรม (Small Power Producer หรือ
SPP) เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย
อาทิเช่น กลุ่มยานยนต์ ยางรถยนต์ บรรจุภัณฑ์ ก๊าซอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์
มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2544
เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
หรือ EEC นี้ได้รับการสนับสนุนไฟฟ้าและไอน้ำที่มีเสถียรภาพในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
บี.กริม เพาเวอร์ จึงดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่มีกำลังการผลิต
140 เมกะวัตต์ มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2565
ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังนี้เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่มีขนาดกำลังการผลิต
103เมกะวัตต์ และกำลังจะหมดอายุสัญญาลง
ทั้งนี้
เป็นการดำเนินการตามแผนการสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อทดแทน (SPP Replacement) ของรัฐบาล
ซึ่ง บี.กริม เพาเวอร์ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในพื้นที่ EEC
รวมทั้งสิ้น 5 โครงการ โครงการละ 140 เมกะวัตต์
แบ่งเป็นการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 30 เมกะวัตต์
ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 25 ปี และส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม
รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้น 700 เมกะวัตต์
อันเป็นการสร้างเพื่อทดแทนโครงการเดิมด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง
และคาดว่าจะลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติได้ถึงร้อยละ 10-15
เมื่อเทียบกับโครงการเดิมที่กำลังจะหมดอายุสัญญาลง
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์
มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 48 โครงการ รวมกำลังการผลิต 3,058
เมกะวัตต์
หากรวมโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาจะทำให้กำลังการผลิตขยายเป็น3,682
เมกะวัตต์ โดยภายในปี 2568 มีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตเป็น 7,200
เมกะวัตต์ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษา
คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอนาคตอันใกล้