จากนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วย
BCG Model เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม
ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติไปพร้อมกัน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ( Bio Economy) ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ
มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เชื่อมโยงกับ เศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy) คำนึงถึงการนำวัสดุต่าง ๆ
กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และทั้ง 2 เศรษฐกิจนี้ อยู่ภายใต้เศรษฐกิจสีเขียว (Green
Economy) ซึ่งต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล
ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน
โดยเปลี่ยนข้อได้เปรียบที่ไทยมีจากความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม
ให้เป็นความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจ BCG ที่เติบโต
แข่งขันได้ในระดับโลก เกิดการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ
ชุมชนเข้มแข็ง มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
จากนโยบายของภาครัฐข้างต้น บริษัท
บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
(วว.) ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา(2563)
โดยร่วมกันวิจัยและพัฒนาไบโอเมทานอลจากวัตถุดิบฐานชีวภาพ ทดแทนเมทานอล
ด้วยการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอุตสาหกรรมไฟฟ้าถ่านหิน
มาเพิ่มมูลค่าร่วมกับก๊าซไฮโดรเจน
ก๊าซมีเทน และกลีเซอรอลดิบ ในการผลิตไบโอเมทานอลระดับกึ่งอุตสาหกรรม (เฟสที่
3) ต่อยอดการสร้างโรงงานไบโอเมทานอลต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย
ปัจจุบัน BLCP ได้นำผลงานวิจัยระดับห้องปฏิบัติการของ
วว. ไปขยายผลและต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ
เพื่อลดการนำเข้าเมทานอลจากต่างประเทศ และตอบโจทย์ BCG Model ในแง่ของเศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy) เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและใช้ประโยชน์จากของเหลือทิ้งภาคอุตสาหกรรม
นายยุทธนา เจริญวงศ์
กรรมการผู้จัดการบริษัท บีแอลพีซี เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า "จากความต้องการเมทานอล
อ้างถึงข้อมูลการนำเข้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีปริมาณมากกว่า 1,000
ล้านลิตรต่อปี (พ.ศ. 2563) หรือราว 2
ล้านกิโลกรัมต่อวัน ถูกนำเข้ามา เพื่อใช้ใน 2 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่
อุตสาหกรรมตัวทำละลาย/สี ร้อยละ 60 และอุตสาหกรรมผลิตไบโอดีเซลร้อยละ 40 ทั้งนี้ ไบโอเมทานอลสามารถนำมาทดแทนเมทานอลได้
โดยการผลิตจากวัตถุดิบฐานชีวภาพ โดยตั้งเป้าไว้ในปี
พ.ศ. 2565-2566 จะมีแผนติดตั้งกระบวนการผลิตไบโอเมทานอลระดับมากกว่า 20,000
ลิตรต่อวัน เพื่อเป็นโรงงานต้นแบบโรงแรกของประเทศ
ตอบสนองความต้องการใช้ภายในประเทศไทย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการพัฒนาจากกระบวนผลิตไบโอเมทานอล อาทิ
ช่วยลดการนำเข้าเมทานอลจากจากต่างประเทศร้อยเปอร์เซ็นต์
ภาคเกษตรกรที่ผลิตของเสียหรือพืชเกษตรที่สามารถผลิตไบโอก๊าซได้มีแหล่งขายวัตถุดิบเพื่อการผลิตไบโอก๊าซ
และเกิดการจ้างงานจำนวนมาก เป็นต้น"
BLCP ขอเป็นส่วนหนึ่งที่เข้าไปช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ
BCG โมเดล เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
มีการนำไปใช้จริงในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ผ่านการบูรณาการดำเนินงานร่วมกันของพันธมิตรภาครัฐและเอกชน
นำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน