นายพิจินต์ อภิวันทนาพร
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด
(มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า จากที่ OR ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกเมื่อวันที่
11 กุมภาพันธ์ 2564
และเป็นหุ้นที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับตลาดหุ้นไทยที่มีรายการจองซื้อและจำนวนผู้ถือหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
และได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยด้วยวิธีการกระจายหุ้นแบบ Small
Lot First ให้ประชาชนได้ร่วมเป็นเจ้าของ OR อย่างทั่วถึง
สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ OR ในการเติบโตไปพร้อมกับคนไทย
สำหรับผลการดำเนินการในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 OR มีกำไรสุทธิ
4,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,079
ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.9% เมื่อเทียบกับไตรมาก่อน (QoQ) หรือเพิ่มขึ้น
2,106 ล้านบาท หรือมากกว่า 100%
เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 (YoY) จากปัจจัยหลักคือการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรของผลิตภัณฑ์น้ำมัน
สำหรับผลการดำเนินงานของไตรมาสที่
1 ปี 2564
มีรายได้ขายและบริการ 118,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,964
ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.2% จากไตรมาสก่อน โดยหลักจากรายได้เฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจน้ำมัน
ซึ่งราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
ส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจ Non-Oil ปรับตัวลดลงจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรค
COVID-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคลดลง
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางไตรมาส
มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดซึ่งสามารถกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายได้กลุ่มธุรกิจต่างประเทศนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้น
ซึ่งเป็นไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้
ในช่วงไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา OR ได้เข้าลงทุนในบริษัท
ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ในสัดส่วน 20% เป็นการต่อยอดธุรกิจ F&B ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋
เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ รวมถึง
สนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรผู้ปลูกผักในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านสถานีบริการน้ำมัน
PTT Station และ Café Amazon รวมทั้งยังได้ร่วมกับ
LINE MAN Wongnai เปิดให้บริการ LINE MAN Kitchen ซึ่งเป็นคลาวด์
คิทเช่นในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station เพิ่มเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค
โดยใช้ PTT Station เป็นแพลตฟอร์มให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าและบริการที่นอกเหนือจากการเติมน้ำมัน
ตามแนวคิด Retailing Beyond Fuel นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับ GPSC เปิดตัวโครงการ
G-Box ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (Battery
Energy Storage System หรือ BESS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านบริหารจัดการพลังงานร่วมกับ
EV Station ถือเป็นนวัตกรรมพลังงาน
ที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มเสถียรภาพการใช้ไฟฟ้า ทั้งในด้านการลดต้นทุนค่าพลังงาน
และป้องกันไฟฟ้าตกหรือดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด
รองรับความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคต
"การดำเนินการเหล่านี้เป็นไปตามทิศทางกลยุทธ์ของ
OR ที่มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน
ตอบโจทย์คนเดินทางในทุกรูปแบบ
รวมถึงการสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน (Inclusive
Growth) สร้างชุมชนที่น่าอยู่ (Living
Community) และสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ (Healthy
Environment) ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน"
นายพิจินต์ กล่าว