นายประเสริฐ อินทับ
ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน กฟผ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19
พฤษภาคม 2564 ได้มีการร่วมประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ "บูรณาการเชื่อมโยงจัดการน้ำทั่วไทยด้วย
10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี’64" โดยมีพลเอก
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
(กอนช.) เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายการดำเนินงานตามมาตรการฤดูฝน ปี 2564
โดยมีหัวหน้าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และผู้แทนจากคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด 4 ลุ่มน้ำ
เข้าร่วมประชุมออนไลน์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Video Conference)
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว
โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบ "10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2564" ตามที่
กอนช. เสนอ
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำและป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน
ประกอบด้วย 1) คาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนทิ้งช่วง 2) บริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก
3) ทบทวนและปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง
และเขื่อนระบายน้ำ 4) ซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ
และสถานีโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน 5) ปรับปรุง แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ 6) ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา
7)
เตรียมความพร้อมและวางแผนเครื่องจักรเครื่องมือประจำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนน้อยกว่าค่าปกติ
8) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและปรับปรุงวิธีการส่งน้ำ 9)
สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมความพร้อม ตลอดระยะเวลาฤดูฝน
และ10) ติดตามประเมินผลและปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตลอดระยะเวลาฤดูฝน
พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลักเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการเชิงพื้นที่เพื่อขับเคลื่อน
"10 มาตรการรับมือฤดูฝน" ให้เกิดการเชื่อมโยงผ่านคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดทั้ง
76 จังหวัด
นายประเสริฐ อินทับ กล่าวเพิ่มเติมว่า
เพื่อให้สอดรับกับมาตรการรับมือสถานการณ์ฤดูฝน ปี 2564 ของ กอนช.
ศูนย์บริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ กฟผ. จะดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน
ตามมาตรการที่ 3, 4 และ 8
โดยจะดำเนินการจัดทำเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำ (Dynamic Operation Curve) ของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางของ
กฟผ. จำนวน 12 แห่ง
และจัดทำแผนการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงปริมาณน้ำเกินความจุ
ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนบางลาง
โดยมีการติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อทบทวนและปรับแผนการระบายน้ำให้เหมาะสมตลอดช่วงฤดูฝน
รวมทั้งการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยเขื่อน อาคารชลศาสตร์
ประตูระบายน้ำและสถานีโทรมาตร
ให้มีความพร้อมต่อการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนปีนี้
เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยและปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ