ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท
ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
· รัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ
ประกาศยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมและการประกอบธุรกิจ หลังจากประชาชนในรัฐ 70%
ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 อย่างน้อย 1 โดส
ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP)
ในปี 2564 โดยคาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 7% จากปีก่อน
ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ในเดือน มี.ค. 64 ที่ 6.5%
· สำนักสถิติของจีน (NBS) รายงานปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น
(Crude Throughput) ในเดือน พ.ค. 64 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 160,000
บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 14.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดตั้งแต่ พ.ย. 63
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
· คณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC)
ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (ปัจจุบันอยู่ในช่วง 0-0.25%)
ภายในปี 2566 เร็วขึ้นกว่าเดิม 1 ปี
จากที่เคยส่งสัญญาณไว้ว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567
· สำนักสารสนเทศทางพลังงานของสหรัฐฯ (EIA)
คาดการณ์ปริมาณการผลิต Shale Oil จาก
7 แหล่งผลิตใหญ่ ในเดือน ก.ค. 64 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 38,000 บาร์เรลต่อวัน
อยู่ที่ 7.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 63
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ
หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
วิเคราะห์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบว่ามีแนวโน้มเป็นขาขึ้น
ตามมุมมองเชิงบวกต่อการใช้พลังงานที่ฟื้นตัวตามสภาวะเศรษฐกิจ
สำนักตัวแทนพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2564
จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 96.39 ล้านบาร์เรลต่อวัน
และในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 3.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 99.46
ล้านบาร์เรลต่อวัน
ประเด็นที่น่าจับตา คือ
การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม
(ประมาณปลายเดือน มิ.ย.- พ.ย. ของทุกปี)
ล่าสุดกระแสลมในอ่าวเม็กซิโกมีกำลังแรงขึ้น
ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกชายฝั่งบางแห่ง เริ่มอพยพพนักงานบางส่วนออกจากพื้นที่
อาทิ บริษัท Equinor, Chevron, และ Occidental Petroleum เนื่องจากกังวลว่าจะก่อตัวเป็นพายุรุนแรง
รวมทั้งการประชุมกลุ่ม OPEC+ ในวันที่ 1 ก.ค. 64
เพื่อทบทวนมาตรการจำกัดการผลิตน้ำมันดิบ ซึ่งปัจจุบันมีข้อตกลงลดการผลิต
โดยในเดือน มิ.ย.- ก.ค. 64 อยู่ที่ระดับ 6.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 5.759
ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ และซาอุดีอาระเบียลดการผลิตนอกเหนือข้อตกลง ในเดือน
มิ.ย. 64 อีก 400,000 บาร์เรลต่อวัน และวางแผนจะยกเลิกในเดือน
ก.ค. 64