กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เผยการเจาะหลุมดงมูล-5 ใช้เงินเกือบ 500 ล้านบาท
นางพวงทิพย์ ศิลปศาสตร์ เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานที่ได้รับสิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและได้เจาะหลุมสำรวจปิโตรเลียมหลุมดงมูล-5 ในแปลง L27/43 ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านกุงเก่า ตำบลกุงเก่า อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2558 และเจาะถึงระดับความลึกสุดท้าย 3,025 เมตร เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2558 โดยเริ่มพบก๊าซธรรมชาติที่ระดับความลึก 2,776 เมตร มีอัตราการไหลสูงสุดประมาณ 25 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเริ่มมีการทดสอบอัตราการไหล เพื่อวัดแรงดันก๊าซธรรมชาติ ในการประเมินผลเชิงพาณิชย์โดยการเผา(flare) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2558และจะทดสอบครั้งสุดท้ายในวันที่ 25 มิถุนายน 2558
อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้สั่งการและกำชับให้บริษัทดำเนินการในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและการป้องกันตามมาตรฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ทั้งส่วนที่ดำเนินการโดยบริษัทเอง รวมถึงที่ได้ขอความร่วมมือจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำรถตรวจวัดฝุ่น และคุณภาพอากาศ เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศโดยตรวจวัดก๊าซคาร์บอน-มอนนอกไซด์ (CO) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (ก๊าซไข่เน่า) ในบริเวณโดยรอบพื้นที่ตลอดระยะเวลาดำเนินการ ซึ่งผลการตรวจวัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน และได้เปิดโอกาสให้หลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชนในพื้นที่สามารถตรวจสอบได้มาโดยตลอด
"ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีความเสี่ยง และต้องใช้เงินลงทุนสูง" ข้อมูลที่ยืนยันในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี คือ ในการขุดเจาะหลุมดงมูล-5 เพียง 1 หลุม มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไปแล้วรวมทั้งสิ้นประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 500 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐเท่ากับ 33 บาท) ในขณะที่ปัจจุบันอยู่ในเพียงขั้นตอนของการประเมินผลในเชิงพาณิชย์เท่านั้น ดังนั้น กว่าจะครบในทุกกระบวนการจนถึงขั้นจำหน่ายปิโตรเลียม ต้องประกอบด้วยทั้งการสำรวจ พัฒนา จนถึงการผลิต นอกจากใช้เม็ดเงินลงทุนสูง ยังต้องใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัดอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน และเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง อธิบดีกล่าว