นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ปตท.และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการศึกษาและพัฒนาด้านความมั่นคง
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย จัดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual MOU Signing
Ceremony) เพื่อส่งเสริมการนำองค์ความรู้ด้านวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และความชำนาญด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท.
มาร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศในวิกฤตการณ์ต่างๆ
อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันประเทศในระยะยาว
ปตท. ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สานต่อโครงการประชารัฐของรัฐบาลในการผลักดันและพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศตั้งแต่ปี
2563 ที่ผ่านมา ด้วยการนำเอาความรู้ ความชำนาญด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม
และอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท.
มาผนวกกับองค์ความรู้ด้านวิชาการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาของประเทศในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
พร้อมเตรียมต่อยอดสู่การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อบริหารจัดการภาวะวิกฤตด้านความมั่นคงปลอดภัยของประเทศในระยะยาว
โดยความร่วมมือครั้งนี้ ปตท. และ คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย
การพัฒนาหน้ากากผ้าที่สามารถป้องกันได้ทั้งเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า และฝุ่น PM
2.5 โดยใช้วัตถุดิบจากปิโตรเคมี
ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดเชื้อแบคทีเรียได้สูงถึง 99.98%
และป้องกันอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน (µm) ได้ถึง
84% ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึง
การพัฒนาระบบ AI CCTV มาใช้บริหารจัดการพื้นที่เพื่อควบคุมระยะห่างของบุคคลในสถานประกอบการกลุ่ม
ปตท. พร้อมระบบแจ้งเตือนหากพบผู้ที่ไม่สวมใส่หน้ากาก นอกจากนี้ ยังจะร่วมพัฒนาระบบระบายอากาศเพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อโควิดภายในอาคาร การนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาขยะติดเชื้อ
และการดัดแปลงถัง NGV มาปรับใช้บรรจุออกซิเจน
เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดการขาดแคลนถังออกซิเจนภายในประเทศในอนาคตอีกด้วย ซึ่ง กลุ่ม ปตท. พร้อมนำความรู้และความเชี่ยวชาญมาพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ
เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ
และส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนไทยทั้งในยามปกติและในภาวะวิกฤตต่างๆ
ให้เราทุกคนก้าวผ่านปัญหาและเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล
คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เปิดเผยว่า ในส่วนความร่วมมือด้านวิชาการ ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยหลักสูตรวิศวกรรมและเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ จะร่วมกับ
ปตท. เพื่อการพัฒนาหลักสูตรการบริหารจัดการสถานการณ์สำหรับสาธารณูปโภคสำคัญ (Critical
Infrastructure Management) โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่ระบบต่างๆของภาคส่วนพลังงานและระบบขนส่งมวลชนระบบราง
เช่น การพัฒนาระบบจำลองสถานการณ์ (Simulator) สำหรับการฝึกแก้ไขเหตุการณ์วิกฤตในพื้นที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
รวมไปถึงการบูรณาการองค์ความรู้ในการบริหารจัดการกรณีเหตุสารเคมีและวัตถุอันตรายรั่วไหล
เช่น น้ำมันรั่ว หรือไฟไหม้
นอกจากนั้นทางหลักสูตรยังมีการริเริ่มโครงการการประเมินศักยภาพของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพื่ออุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
โดยมุ่งเน้นไปที่การพึ่งพาตนเองในระยะแรกเพื่อการผลิตวัสดุอุปกรณ์จากวัสดุปิโตรเคมีในประเทศสำหรับงานด้านความมั่นคงทั้งภาครัฐและเอกชน
เช่น ชุดป้องกันสารเคมี เชื้อโรค เกราะกันกระแทก ที่พักฉุกเฉิน เชือกสายเคเบิล
ทั้งนี้เพื่อเตรียมการรองรับปัญหาภัยคุกคามและภัยธรรมชาติ
ที่ในอนาคตจะมีมากขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งสองงานนี้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะมีการประสานกันอย่างใกล้ชิดกับทีมงานของ
ปตท. เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคน
นอกจากนี้ยังจะมีการผลิตและอบรมเพิ่มพูนความรู้ร่วมกันสำหรับนิสิตและบุคลากรของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย