บางจากฯ ผู้ริเริ่มจำหน่าย "น้ำมันลดฝุ่น"
เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2562
ด้วยการปรับคุณภาพน้ำมันดีเซลทุกชนิดใน กทม. เป็นปริมาณกำมะถันระดับมาตรฐานยูโร 5
ช่วยลดมลภาวะจากฝุ่น PM 2.5
จะจำหน่าย "น้ำมันลดฝุ่น" เป็นปีที่
3 ติดต่อกัน ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565
เพื่อเป็นการร่วมป้องกันปัญหาจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก
หรือ PM 2.5
ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปีเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะเวลา 3
ปีที่ผ่านมา บางจากฯ
จะปรับคุณภาพน้ำมันดีเซลทุกลิตรที่จำหน่ายในสถานีบริการบางจากใน กทม. 130
สาขาเป็นดีเซลปริมาณกำมะถันต่ำ ระดับมาตรฐานยูโร 5 ที่ช่วยลดค่ากำมะถันลงถึง 5
เท่า (น้อยกว่า 10 ppm) จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยจะจำหน่ายในราคาเท่าเดิมแม้จะมีต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น
ซึ่งการปรับลดปริมาณกำมะถันในน้ำมันดีเซลสามารถช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้
เพราะกำมะถันในน้ำมันเมื่อถูกเผาไหม้จะเกิดเป็นซัลเฟตและจับกับมลพิษอื่น
ทำให้เกิดเป็นฝุ่น PM 2.5
นอกจากนี้ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564
– 28 กุมภาพันธ์ 2565 ลูกค้าบางจากฯ เมื่อเติมน้ำมัน
สามารถนำใบเสร็จไปรับบริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี 11 รายการ
พร้อมให้คำปรึกษาวิธีการดูแลให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
เพื่อป้องกันไม่ให้ปล่อยเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้ อันเป็นสาเหตุของ PM 2.5
ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันบางจากซึ่งเป็นโรงกลั่นแบบ
Complex Refinery ที่ทันสมัย กำลังการผลิต 120,000 บาร์เรลต่อวัน
สามารถผลิตน้ำมันกลุ่มเบนซินและกลุ่มดีเซลซึ่งเป็นน้ำมันที่มีมูลค่าสูงได้คุณภาพตามข้อกำหนดมาตรฐานยูโร
4 ของภาครัฐ นอกจากนี้ยังเป็นโรงกลั่นรายแรกในเอเชียที่ผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20
มาตรฐานยูโร 5 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์มาตรฐานยูโร 5
ของบางจากฯ ได้แก่ บางจากแก๊สโซฮอล์ E20S และบางจากไฮพรีเมียม
ดีเซล S ซึ่งน้ำมันสองชนิดนี้นอกจากจะช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด
เผาไหม้ได้สมบูรณ์ เร่งได้แรงเต็มสมรรถนะเครื่องยนต์แล้ว
ยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานยูโร 5 อีกด้วย