นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บ้านปูมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส
3 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน
ซึ่งมีรายได้เติบโตจากราคาขายที่สูงขึ้น
ประกอบกับการดำเนินการตามแผนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่สามารถรองรับความไม่แน่นอนของราคาและความต้องการของกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงาน
จึงเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงราคาตลาดปรับตัวสูงขึ้น
ส่งผลให้บริษัทฯ มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง
พร้อมขยายพอร์ตธุรกิจเพื่อเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบ้านปู โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานตามกลยุทธ์
Greener & Smarter ที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานในอนาคต
รวมถึงความต้องการและคาดหวังในเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 ทั้ง 3
ธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีผลประกอบการดังนี้
กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน (Energy
Resources) มีผลประกอบการที่ดีจากราคาขายถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับแนวโน้มราคาในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ ประเทศที่เริ่มมีการฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจ
และภาวะการตึงตัวของอุปทานในตลาด ประกอบกับสภาพภูมิอากาศในจีนที่เข้าสู่ฤดูหนาว
โดยธุรกิจเหมืองมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ในไตรมาส
3 ที่ 399 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 13,134 ล้านบาท) ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มี EBITDA
ไตรมาส 3 ที่ 122.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,030 ล้านบาท)
กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน (Energy
Generation) ในไตรมาส 3 บริษัทฯ มี EBITDA 2.6
ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 85 ล้านบาท) อ่อนตัวลงเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Combined
Heat and Power: CHP) 3 แห่งของบริษัทฯ ในจีน
รวมไปถึงโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (Shanxi Lu Guang: SLG) ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้รับผลกระทบจากต้นทุนถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นแต่ยังสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่โรงไฟฟ้าเอชพีซีในสปป.ลาว
และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีในไทยยังสามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าด้ายค่าความพร้อมจ่าย
(EAF) ในระดับที่ดี ส่วนโรงไฟฟ้า นาโกโซ (Nakoso)
ในญี่ปุ่นยังสามารถสร้างผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่อง
ด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีนและญี่ปุ่นคงประสิทธิภาพการจ่ายไฟได้เป็นอย่างดี
แม้สภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ การลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ CCGT
"Temple I" ในสหรัฐอเมริกา
ได้เสร็จสิ้นกระบวนการซื้อขายเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy
Technology) ในไตรมาส 3 บริษัทฯ มี EBITDA 5.4
ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 179 ล้านบาท) ในขณะที่บริษัทฯ
ยังคงเร่งเดินหน้าลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและ โซลูชันด้านพลังงานที่มีศักยภาพสูง
โดยได้ขยายและพัฒนาบริการของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (E-mobility Platform) และธุรกิจการจัดการใช้พลังงาน
(Energy Management Solutions) ด้วยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในในบริษัท
เอ็นจี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งดำเนินธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่การจัดหา
ติดตั้ง ดำเนินการดูแลรักษา รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพระบบและอุปกรณ์ด้านการใช้พลังงาน
เช่น ระบบอัดอากาศ ระบบทำความเย็นภายในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ถือเป็นการเสริมแกร่งระบบนิเวศพลังงานฉลาดของบ้านปู เน็กซ์อย่างเต็มรูปแบบ
"บ้านปูยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามหลัก
ESG ไปพร้อมกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทยและระดับโลก
โดยพร้อมให้การสนับสนุนความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย
และรัฐบาลในทุกประเทศที่บ้านปูเข้าไปดำเนินธุรกิจ
รวมทั้งร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
(UNFCCC COP) สมัยที่ 26 หรือ COP26 โดยบริษัทฯ จะดำเนินมาตรการในด้านต่าง ๆ
เพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง
และมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้น
โดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าหมายการมี
EBITDA จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ
50 ภายในปี 2568" นางสมฤดี กล่าว