บริษัท นิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน
จำกัด (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd : NRPT) บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท
อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด
ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ บริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศอังกฤษ : Plant
& Bean (UK) ในสัดส่วนการลงทุน 51% และ 49% ตามลำดับ
เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศไทย : Plant
& Bean (Thailand) ผลิตผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการด้านอาหาร
โดยจะนำเทคโนโลยีการผลิตโปรตีนจากพืชชั้นสูงจากประเทศอังกฤษมาตั้งไว้ที่ประเทศไทย
ตั้งเป้ากำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี มีแผนจะเริ่มดำเนินการออกแบบ และก่อสร้างในปี
2565
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า
การพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาในกลุ่มธุรกิจอาหารเพื่อโภชนาการและโภชนเภสัช
ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่อินโนบิกได้ตั้งเป้าหมายไว้
โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศที่สามารถผลิตโปรตีนจากพืชให้มีเนื้อสัมผัส
รสชาติ และรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริงมาตั้งสายการผลิตที่ประเทศไทย
เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจในสุขภาพ
ตลอดจนผู้ประกอบการที่สนใจนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การผลิตอาหารแห่งอนาคต (Food for
Future) ของประเทศ
สอดคล้องวิสัยทัศน์ใหม่ที่มุ่งขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตของกลุ่ม ปตท. (Powering
Life with Future Energy and Beyond) นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุน
และผลักดันยุทธศาสตร์ประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางด้านนวัตกรรมด้านอาหารเพื่อสุขภาพของอาเซียนอีกด้วย
นายแดน ปฐมวาณิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF และประธานกรรมการบริษัท โนฟ ฟู้ดส์
จำกัด เปิดเผยว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากธุรกิจอาหารมีสัดส่วน
1 ใน 3 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก NRF ในฐานะผู้ผลิตอาหารเพื่อความยั่งยืน
การพัฒนาไปในอนาคตของบริษัทจะต้องให้ความใส่ใจกระบวนการผลิต
โดยเริ่มต้นจากการกำหนดรูปแบบธุรกิจที่มุ่งสู่การลดคาร์บอน
ให้คนบริโภคโปรตีนจากพืช (Plant-based Food) ให้มากขึ้น
อีกทั้งยังเชื่อว่าด้วยแพลตฟอร์มของ Plant & Bean (Thailand) จะสามารถลดคาร์บอนได้ถึงปีละ
12 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ก็จะมีส่วนช่วยในการลดก๊าซเรือนกระจกได้ โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืชในสหรัฐอเมริกา
สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของเนื้อสัตว์แล้วกว่า 3.6% และภายใน 10 ปีข้างหน้า
จะสามารถขยับขึ้นเป็น 10-15% สะท้อนให้เห็นว่า
อาหารโปรตีนจากพืชสามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีไปอีกขั้น และถือเป็นโอกาสของเรา
ที่จะขยายตลาดด้วยอาหารโปรตีนจากพืชให้ครอบคลุมทั่วโลก
นายเจมส์ เฮิร์สท์ (Mr.
James Hirst) CEO บริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า
จากประสบการณ์กว่า 20 ปี ในอุตสาหกรรมอาหาร
บริษัทได้มีการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชอย่างต่อเนื่อง
โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปรับปรุงรสชาติ เนื้อสัมผัส และรูปลักษณ์
ควบคู่ไปกับการพัฒนากระบวนการผลิต ซึ่งความร่วมมือในการตั้ง Plant &
Bean (Thailand) ในครั้งนี้
จะส่งเสริมให้บริษัทมีความพร้อมรองรับความร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ต่าง ๆ
ที่ต้องการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชคุณภาพสูง สามารถทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย
และผู้บริโภคเข้าถึงได้