กระทรวงพลังงานเผยแนวทางรับซื้อไฟฟ้าแดดส่วนราชการและสหกรณ์
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ กลั่นกรองและคัดเลือกโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร รวม 800 เมกะวัตต์ กำลังอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำร่างหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
ส่วนกระบวนการรับซื้อไฟฟ้านั้น คาดว่าจะเปิดรับซื้อเป็น 2 ระยะ คือ 1. กลุ่มที่ตั้งอยู่พื้นที่ที่มีสายส่งไฟฟ้ารองรับจะสามารถเข้าร่วมโครงการและขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2560 และ 2. กลุ่มที่ยังไม่มีสายส่งไฟฟ้ารองรับ อาทิ ภาคอีสาน จะต้องขายไฟฟ้าเข้าระบบช้าออกไปประมาณปี 2561 แทน เพื่อให้การพัฒนาสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อยก่อน
ทั้งนี้หากมีผู้ร่วมโครงการเกิน 800 เมกะวัตต์ เบื้องต้นทางอนุกรรมการกลั่นกรองฯ จะกำหนดให้ใช้วิธีจับฉลาก โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกรายได้มีโอกาสจับฉลากอย่างเท่าเทียม และแบ่งกลุ่มการเข้าระบบขายไฟฟ้า อาทิ กลุ่มราชการ กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มทหาร หรือกลุ่มอื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้เกิดการกระจายการขายไฟฟ้าอย่างทั่วทุกกลุ่มต่อไป สำหรับกลุ่มราชการที่กฎหมายเปิดทางให้หน่วยราชการที่มีหลายสาขาสามารถผลิตไฟฟ้าขายเข้าระบบได้ทุกสาขานั้น เบื้องต้นกำหนดให้พิจารณาพื้นที่ตัวเองก่อน โดย 1 พื้นที่สามารถผลิตได้เพียง 1 โครงการเท่านั้น
นอกจากนี้มติเดิมของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กำหนดให้โครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ส่วนราชการและสหกรณ์ดังกล่าวต้องขายไฟฟ้าเข้าระบบ(ซีโอดี)ในเดือนมิ.ย.2559 แต่เนื่องจากกฎหมายของหน่วยราชการมีมากและซับซ้อนดังนั้น จะมีการเสนอ กพช.แก้ไขมติเดิมเพื่อให้เลื่อนการขายไฟฟ้าเข้าระบบออกไปเป็นปี 2560-2561แทน
สำหรับร่างหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวนั้น หากผ่านขั้นตอนการรับฟังความเห็นเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมแล้ว จะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน(อาร์อี) ซึ่งนายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)หรือเรกูเลเตอร์เพื่อกำหนดเป็นหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนต่อไป คาดว่าจะมีความชัดเจน ในเดือนส.ค. 2558 หรืออย่างช้าสุดประมาณปลายปี 2558
..............................