นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม –
มิถุนายน 2565 อยู่ที่ 152.14 ล้านลิตร/วัน
เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.4
โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet
A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 62.4 น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.1
LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 และการใช้ NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ
3.2 ขณะที่การใช้กลุ่มเบนซินลดลงร้อยละ 0.1
และน้ำมันก๊าดลดลงร้อยละ 0.2 ทั้งนี้
เมื่อพิจารณาภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากกิจกรรมการทางเศรษฐกิจที่ทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น
โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการผ่อนคลายการเดินทางเข้า-ออกประเทศ
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม –
มิถุนายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.70
ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง ร้อยละ 0.1) เนื่องจากราคาที่อยู่ในระดับสูง
สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี20
และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 6.98 ล้านลิตร/วัน 5.67
ล้านลิตร/วัน และ 0.56 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์
95 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.52
ล้านลิตร/วัน และ 0.98 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม
– มิถุนายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 75.10
ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.8) การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้ไม่เกิน
30-35 บาท/ลิตร จนถึงเดือนกันยายน 2565
สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 65.80 ล้านลิตร/วัน
(เพิ่มขึ้น ร้อยละ 72.6) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา
ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 3.03 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
บี20 มีปริมาณการใช้ 0.20
ล้านลิตร/วัน ทั้งนี้
น้ำมันดีเซลหมุนเร็วมีสัดส่วนผสมไบโอดีเซลขั้นต่ำที่ร้อยละ 5-6
ทั้ง 3 เกรด และด้วยราคาที่ใกล้เคียงกันจึงส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
บี7
ปรับตัวสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วชนิดอื่น
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet
A1) เดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 7.44
ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
(เพิ่มขึ้น ร้อยละ 62.4) เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศ
โดยผู้เดินทางที่ถือสัญชาติไทยไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass และสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามปกติไม่ต้องกักตัวและตรวจหาเชื้อ
COVID-19 แต่ต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีน
หากไม่ได้รับวัคซีนต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR
หรือ ATK ที่ออกภายใน 72
ชั่วโมงก่อนเดินทาง สำหรับชาวต่างชาติจำเป็นต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand
Pass และมีหลักฐานเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน
รวมทั้งหลักฐานการมีประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในไทยวงเงินขั้นต่ำ 10,000
ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนการใช้ LPG เดือนมกราคม
– มิถุนายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.95
ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.6) เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น
โดยภาคขนส่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.09 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.9)
ภาคปิโตรเคมี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.05
ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.7) ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.04
ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.0) และภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.77
ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.1)
การใช้ NGV เดือนมกราคม
– มิถุนายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.38
ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.2) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาก๊าซ NGV
ที่ปรับตัวสูงขึ้น ภาครัฐจึงได้ขอความร่วมมือ ปตท.
ขยายระยะเวลาการคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่
15.59 บาท/กิโลกรัม และราคาขายปลีก NGV สำหรับรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ
และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม จนถึงวันที่ 15
กันยายน 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกภาคส่วน
สำหรับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม
– มิถุนายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,028,314
บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.1) เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น
โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 961,425
บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.2) โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่
104,775 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 98.7)
สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน
น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่
66,889 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,842
ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม –
มิถุนายน 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล
น้ำมันเตาน้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่
173,566 บาร์เรล/วัน (ลดลง ร้อยละ 4.9) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม
22,286 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 91.4)