นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์
ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)
ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์
โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท
เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชนถึงแม้ราคาน้ำมันยังคงผันผวนปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล (GAS OIL) วันนี้ (30 สิงหาคม 2565)
ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 145.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 10.75
เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า (19 สิงหาคม 2565) ซึ่งราคาดีเซลอยู่ที่
134.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันผันผวน
มาจากทั้งด้านกลุ่มประเทศโอเปกพลัส
ที่อาจจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ทุกเวลาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทาย
ส่วนทางกลุ่มประเทศยุโรป มีความกังวลจากสถานการณ์ด้าน Supply ก๊าซธรรมชาติตึงตัวหลังจากบริษัท
Gazprom ของรัสเซียยังคงหยุดส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังประเทศในยุโรปส่งผลให้ราคาก๊าซในยุโรปปรับตัวสูงขึ้นมาก
ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันแทนก๊าซธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ด้านสหรัฐฯ
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ
(EIA) ประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ
สัปดาห์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล
สู่ระดับที่ 421.7 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565
ได้วางมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่าลิตรละ 35
บาทเป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2565)
แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่ได้นำมาปรับใช้แต่อย่างใด เนื่องจากต้องการบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน
ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงยังคงสูงกว่าราคาขายปลีกในประเทศที่ลิตรละ
35 บาท
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน
วันที่ 28 สิงหาคม 2565 ติดลบ 119,764 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 78,301 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ
41,463 ล้านบาท