วันนี้ (20 ตุลาคม 2565)
การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานได้เปิดเผยว่า
จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศยูเครนและสหพันธรัฐรัสเซียส่งผลให้เกิดวิกฤตราคาพลังงานทั่วโลก
ซึ่งกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ ภาพรวมเศรษฐกิจ และค่าครองชีพของประชาชน
โดยปัจจุบันราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกยังคงผันผวน
ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG เพื่อพิจารณาแนวทางบรรเทาผลกระทบกับผู้ใช้ก๊าซ
พบว่า ในเดือนกันยายน 2565 ถึงเดือนตุลาคม 2565 ราคา LPG ตลาดโลกลดลงประมาณ
69.40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 11 จาก 644.65 สู่ระดับ 575.25
เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2565
ในขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม
ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2565 มีฐานะกองทุนสุทธิ
ติดลบ 126,690 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 84,126 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG
ติดลบ 42,564 ล้านบาท
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุม กบง.
จึงมีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น
LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม
(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ
408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
ซึ่งการดำเนินการปรับราคาก๊าซ LPG ในครั้งนี้จะช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
แต่จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีภาระเพิ่มขึ้น และเกิดปัญหาการลักลอบจำหน่าย LPG
ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และที่ประชุม กบง.
ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)
เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ
LPG ต่อไป