นายพงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE
เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565
บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกและเตรียมเข้าทำสัญญาบริหารจัดการโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนท่าจีน
TES TCN ในพื้นที่ตำบลท่าจีน อำเภอเมือง
จังหวัดสมุทรสาคร กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภายใต้รูปแบบที่ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการเองทั้งหมด (Build Own
and Operate, BOO) โดยมีกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 25 ปี
ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร
ด้วยการแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าระบบปิดแบบ Waste to Energy (WTE) กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง
9.9 MW และปริมาณไฟฟ้าที่คาดว่าจะเสนอขายตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
(PPA) จำนวน 8.0 MW ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
(กกพ.) ได้ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าแล้ว
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ
คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน
TES-TCN ตั้งแต่ปี 2568
เป็นต้นไป ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่เข้ามาหนุนภาพรวมผลการดำเนินงานในระยะยาวของ
TGE ให้เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต
"การได้รับคัดเลือกเป็นผู้ชนะในครั้งนี้
ถือเป็นความสำเร็จที่เราทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ซึ่งการขยายพอร์ตธุรกิจเข้าสู่โรงไฟฟ้าขยะชุมชน
จะช่วยทั้งกระจายความเสี่ยงของการลงทุน
และยังสามารถสร้างรายได้และผลกำไรที่ดีในระยะยาว
สอดคล้องกับปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ TGE ที่ยึดมั่นด้าน Green Energy ด้วยการสนับสนุนนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ลดปัญหามลภาวะ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชน เพื่อนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนร่วมกัน"นายพงศ์นรินทร์
กล่าว
ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจ TGE ในปัจจุบัน
แบ่งออกเป็น 1) กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่เปิด COD แล้วจำนวน
3 โครงการ ตั้งอยู่พื้นที่เดียวกันในอำเภอท่าฉาง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี กำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 MW และ
2) กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในอนาคต 4 โครงการ
กำลังการผลิตติดตั้งรวม 31.9 MW ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES
SKW จังหวัดสระแก้ว จำนวน 8 MW โรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES RBR จังหวัดราชบุรี
จำนวน 8 MW โรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES CPN จังหวัดชุมพร
จำนวน 6 MW และล่าสุดนั่นคือโรงไฟฟ้าขยะชุมชนท่าจีน TES
TCN จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 9.9 MW ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ
มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งในมือเพิ่มขึ้นเป็น 61.6 MW ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯ
ยังคงแสวงหาโครงการลงทุนที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เพื่อบรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตให้ได้มากกว่า 200 MW ภายในปี
2575