นายนิวัติ อดิเรก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2565
มีกำไรจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2565 จากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ
"Nam San 3A" และ "Nam San 3B"
ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว)
ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล (High Season)
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9
เดือนของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,692
ล้านบาท
จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น
3 โครงการ จำนวน 65 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการชิบะ 1 โครงการโคมากาเนะ
และโครงการยาบูกิ ซึ่งทยอยรับรู้ผลการดำเนินงานในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีนาคม 2565
และเมษายน 2565 ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทฯ
ได้มีการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่ดีขึ้นจากการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของแผงโซลาร์
รวมถึงการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Project) และการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)
ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,334
ล้านบาท เติบโตร้อยละ 31.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท Star Energy Group Holdings
Pte Ltd. (SEGHPL) ในไตรมาส 1/2565