เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน อับดุลอาซิซ
อัล-เซาด์ (His Royal Highness Prince Abdulaziz bin Abdulaziz AL-Saud) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
(Minister of Energy of the Kingdom of Saudi Arabia) และ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาและลงทุนในโครงการไฮโดรเจนสีเขียว
(Green Hydrogen) และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง (Derivatives)
เพื่อตอบสนองการใช้พลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมถึงโอกาสการส่งออกไปยังภูมิภาคใกล้เคียง ระหว่าง บริษัท แอควา พาวเวอร์ จำกัด (ACWA
Power) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมี ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน
ณ บ้านปาร์คนายเลิศ กรุงเทพฯ
ตามที่รัฐบาลได้ประกาศคำมั่นว่าประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
(Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050
และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี
ค.ศ. 2065
ประเทศไทยมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะเป็นฐานการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง
เพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่ในอนาคต ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน
รวมถึงช่วยเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนตํ่า (Low-Carbon
Circular Economy) ของประเทศ
และเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ท้าทายนี้ แอควา พาวเวอร์ ปตท. และ กฟผ.
จึงได้ร่วมกันศึกษาโอกาสการลงทุนด้านพลังงานสะอาด
เพื่อจัดตั้งโรงงานขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานหมุนเวียนภายในประเทศ
ในการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องในประเทศไทย
และมีเป้าหมายผลิตไฮโดรเจนสีเขียวในประเทศไทยประมาณ 2.25
แสนตันต่อปี หรือเทียบเท่ากรีนแอมโมเนีย 1.2
ล้านตันต่อปี ด้วยเงินลงทุนประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อตอบรับเทรนด์การใช้พลังงานสะอาดที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก
รวมถึงตอบสนองความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
และศึกษาโอกาสในการส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน
นายแพดดี้ ปัทมานาทาน รองประธานกรรมการ
บริษัท แอควา พาวเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การประกาศความร่วมมือกับ ปตท. และ กฟผ.
แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของซาอุดีอาระเบีย
ในการสนับสนุนพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
การสนับสนุนและร่วมศึกษาโอกาสการลงทุนในโครงการไฮโดรเจนสีเขียว (Green
Hydrogen)และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง (Derivatives)
ในประเทศไทย ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในทิศทางเดียวกับซาอุดีอาระเบีย ส่งมอบพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและพึ่งพาได้
เป็นการส่งเสริมการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับวาระด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก
ความร่วมมือกับ ปตท. และ กฟผ. ในครั้งนี้จะเป็นการวางรากฐานที่จำเป็น
รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม ตลอดจนทรัพยากรและความเชี่ยวชาญระหว่างกัน
เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและบรรลุเป้าหมายต่อไป
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ปตท. มุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมสร้างเสถียรภาพทางด้านพลังงานแห่งอนาคตให้กับประเทศไทย
ตามวิสัยทัศน์ "Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต"
ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการสร้างความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ
ในการผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานสะอาดเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
(Net Zero Emissions) ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญระดับประเทศและระดับโลก
ปตท. จึงตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 15 ภายในปี ค.ศ. 2030 บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon
Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2040
และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี
ค.ศ. 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ
ความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง บริษัทแอควา พาวเวอร์ และ กฟผ.
เพื่อศึกษาและลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีผลิตไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ
และเป็นพลังงานสะอาดที่เกิดจากการนำพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
มาแยกก๊าซไฮโดรเจนจากน้ำโดยไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตให้เกิดขึ้นในประเทศไทยครั้งนี้
จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยพร้อมสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low
Carbon Society) ได้อย่างแท้จริง
อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน พัฒนาสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม
และสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตพร้อมกันอย่างยั่งยืนได้ต่อไป
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร
ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กฟผ.
ให้ความสำคัญกับการแสวงหาแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่เพื่อช่วยผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
ภายในปี ค.ศ. 2050
และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065
โดยเน้นพลังงานสะอาดที่มีความเหมาะสม ซึ่งนอกจากช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว
ยังช่วยเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนตํ่า ในระดับประเทศอีกด้วย
จึงได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และ บริษัท แอควา พาวเวอร์ (ACWA
Power Company - Saudi Listed Joint Stock Company) ศึกษาความเหมาะสมและพัฒนาโครงการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว
และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย
เพื่อรองรับความต้องการไฮโดรเจนสีเขียว และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง
ทั้งในและต่างประเทศ
โดยความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่ผลักดันให้ไทยบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แต่ยังส่งผลต่อเป้าหมายในภาพรวมของโลกด้วย