นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม
ปตท. เปิดเผยว่า GPSC ลงนามสัญญาร่วมทุนในการพัฒนาโครงการพลังงานลมกับกลุ่มCopenhagen
Infrastructure Partners (CIP) ผ่านกองทุน Copenhagen Infrastructure
New Markets Fund I (CI NMF I) พร้อมจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เดินหน้าธุรกิจพลังงานลม
โดยมุ่งเน้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมภายในประเทศ ร่วมมือศึกษาพื้นที่ศักยภาพลม
ดึงเทคโนโลยีทันสมัยจาก CIP พร้อมเข้าร่วมโครงการรัฐตามแผน PDP
ของประเทศ ปักธงพร้อมเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานลมในประเทศ
และก้าวสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทฯ ภายในปี ค.ศ. 2060
เมื่อวันที่ 29
พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ CI
NMF I ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การบริหารจัดการของ CIP
บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก
และเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในหลายภูมิภาคทั่วโลก
อาทิ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐอินเดีย และไต้หวัน
โดยจะร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับพลังงานลม
โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าภายในประเทศ
นอกจากนี้ยังแสวงหาพื้นที่และโครงการพลังงานลมที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ โดย
GPSC และ CI NMF I จะถือหุ้นในสัดส่วน
51% และ 49%
ตามลำดับ
นายวรวัฒน์ กล่าวว่า การร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจร่วมกันในครั้งนี้
เป็นการผนึกความแข็งแกร่งของทั้งสองกลุ่มบริษัท เนื่องจาก CIP เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการพัฒนาโครงการพลังงานลมทั้งด้านการสำรวจพื้นที่ทีมีศักยภาพ
การบริหารโครงการก่อสร้าง และการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรเป็นผู้ผลิตกังหันลมที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก
ทำให้สามารถต่อยอดการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมภายในประเทศ
รวมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าวให้กับ GPSC และประเทศไทยได้
การร่วมทุนดังกล่าว
จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานลมของกลุ่มบริษัทฯ
เพื่อรองรับโอกาสในการลงทุนตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP2022)
รวมถึงการพัฒนาโครงการพลังงานลม
ซึ่งจะนำมาสู่การขับเคลื่อนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของ GPSC ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า
50% ในปี 2573
ตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานเพื่อความยั่งยืน
พร้อมกันกับการก้าวสู่นวัตกรรมพลังงาน เพื่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
(Net Zero Emissions) ในปี ค.ศ. 2060
ก่อนหน้านี้ GPSC ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) ในการศึกษาและพัฒนาพื้นที่เพื่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด
โดยมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าของพื้นที่เกษตรกรรมที่มีศักยภาพสูงด้านพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์
ดังนั้น การร่วมทุนกับ CI NMF I ในครั้งนี้
จะสนับสนุนการสร้างแหล่งพลังงานหมุนเวียนใหม่ และที่สำคัญอย่างยิ่งอีกประการคือ
เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยโดยการต่อยอดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายของประเทศไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้
ภายในปี ค.ศ. 2065
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน
2565 กองทุน CI NMF I ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น
(Shared Purchase Agreement) ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 49 ใน
บริษัท ยูรัสพลัส จำกัด และ บริษัท โบรีพลัส จำกัด
(ซึ่งเดิมเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด 100%) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าร่วมยื่นขอผลิตไฟฟ้าตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
ได้ประกาศเชิญชวนรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ปี 2565
– 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565
นับว่าทั้งสองฝ่ายมีประสบการณ์การทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี และการร่วมทุนในครั้งนี้
จะสนับสนุนการยกระดับความสามารถในการเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่ความยั่งยืนของประเทศ
และขับเคลื่อนเป้าหมายของบริษัทฯ
ในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างยั่งยืนต่อไป