นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง
EV Charging Ecosystem เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ Scale Up EV Future บริษัทได้มุ่งขยายระบบนิเวศ
EV ร่วมกับเชลล์ (Shell) ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานระดับโลก
และปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) ผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงชั้นนำของโลก
ในการยกระดับ EV Infrastructure ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เติบโตรองรับเมกะเทรนด์การใช้รถ
EV ด้วยการเป็นผู้จำหน่ายและผู้ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
(EV Charger) ขนาด 180kW ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงที่สุดในไทยในขณะนี้
ให้แก่สถานี "Shell Recharge" และสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง
(HPC) ทั้ง 11 แห่งในไทย ตามโรดแมปการขยายเครือข่าย EV
Charger ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามพรมแดน
3 ประเทศ คือไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ทาง Shell และ
Porsche ได้ประกาศวิสัยทัศน์ไปก่อนหน้านี้
ให้ผู้ใช้งานสามารถชาร์จพลังงานจาก 0% State of Charge (SoC) ถึงระดับ
80% ภายใน 30 นาที เดินทางได้สูงสุดถึง 390 กิโลเมตร สำหรับรถปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan)
"ด้วยนวัตกรรม HPC อันแข็งแกร่งของ
SHARGE กับ 2 บริษัทระดับโลกอย่าง Shell และ
Porsche จะช่วย Scale Up ภารกิจขยาย
EV Infrastructure ของเราให้ไปไกลกว่าเดิม เพราะเรากำลังร่วมกันสร้างเครือข่ายใหญ่ระดับภูมิภาคให้ผู้ใช้รถ
EV เข้าถึงสถานีชาร์จประสิทธิภาพสูงที่เร็วแรงที่สุดได้ง่ายขึ้น
ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญของวงการ EV Charger ประเทศไทย
ที่ได้ยกระดับเทคโนโลยีการให้บริการสู่มาตรฐานสากลระดับโลก
สามารถเชื่อมเข้ากับเครือข่าย EV Charger แบบข้ามพรมแดนได้เป็นครั้งแรก
สะท้อนถึงความพร้อมของ SHARGE ในการเดินหน้าขยายบริการ EV
Charger ไปยังประเทศต่างๆ ในอนาคต" นายพีระภัทร กล่าว
ขณะเดียวกัน
ด้วยมาตรฐานการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการ EV Charger ระดับสากล
บริษัทยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นเป็นผู้ผสานการทำงานระหว่างแอปพลิเคชันแบบข้ามประเทศ
(Cross Border Integration) เชื่อมโยงแอปพลิเคชันของ SHARGE
เข้ากับแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการสถานี HPC 6
แห่งในมาเลเซีย ส่งผลให้ผู้ใช้บริการรถ EV ทุกคันสามารถค้นหาสถานี HPC ของ
Shell Recharge ในมาเลเซีย รวมถึงจองคิว
และจ่ายเงินได้ผ่านแอปฯ SHARGE สานฝันการเป็นเครือข่าย EV
Charger ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2,200
กม.ของ Shell และ Porsche ส่งผลให้
SHARGE เป็นผู้ให้บริการ EV Charger รายแรกของประเทศไทยที่ขยายการให้บริการไปสู่ระดับภูมิภาค
เบื้องต้น บริษัทคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งเครื่องชาร์จความเร็วสูงให้แก่สถานี HPC ของ Shell Recharge ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จนเปิดให้บริการทุกแห่งได้เร็วๆ นี้ และเชื่อมโยงบริการแอปพลิเคชันกับมาเลเซียเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1/2566 ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนขยายความร่วมมือกับ Shell อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เชื่อว่าความร่วมมือทั้งหมดจะส่งผลให้ยอดผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน SHARGE ทะลุ 20,000 ราย และช่วยให้บริษัทสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการ EV Charger ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค
นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย
กรรมการบริหาร ธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เชลล์
ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ Powering Progress มีเป้าหมายสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
(Net-Zero Emission) ภายในปี พ.ศ. 2593
เชลล์จึงพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานมากขึ้น
โดยที่ต้องเป็นพลังงานที่สะอาดมากขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เชลล์มีศักยภาพและความพร้อมที่ในการส่งมอบพลังงานต่างๆ
ที่เรามีประสบการณ์อยู่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นพลังงานโซลาร์ ไฮโดรเจน พลังงานลม
เชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานไฟฟ้า
โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของนโยบายประเทศและความต้องการของลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญ