นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 บริษัทฯ และ Sinohydro (Hong Kong) Holding
Ltd. (SHK) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Power Construction Corporation of China
Ltd. (POWERCHINA) ซึ่งมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้า
(Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
Pak Lay (โครงการฯ) โดยโครงการฯ ดังกล่าว มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง
770 เมกะวัตต์ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)และจะขายไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ให้แก่
กฟผ. ในอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 2.6989 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า
เมื่อวันที่20 มีนาคม 2566 Pak Lay Power Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯและ
SHK จัดตั้งขึ้น เพื่อดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว
โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ40และ SHK ถือหุ้นร้อยละ60ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(Power
Purchase Agreement) กับ กฟผ. โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้ามีระยะเวลา29
ปีนับจากวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ซึ่งโครงการฯ มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่1
มกราคม 2575
โครงการฯ เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่านตลอดปี
(Run-of-the-River) ที่ไม่มีการกักเก็บน้ำในรูปแบบของเขื่อนประเภทอ่างเก็บน้ำ
(Reservoir)และไม่มีการเบี่ยงน้ำออกจากแม่น้ำโขง
แต่ใช้การไหลของน้ำตามธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า โดยที่ปริมาณน้ำไหลเข้าเท่ากับปริมาณน้ำไหลออก
ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง
การเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำดังกล่าว
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ ในการเข้าสู่ตลาดพลังน้ำใน สปป.ลาว และสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ
ในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(Net
Zero Emissions)