นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ประธานกรรมการ
มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า
มูลนิธิไทยรักษ์ป่ามีภารกิจสำคัญด้านอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและป่าต้นน้ำให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
ซึ่งเป็นปัจจัยตั้งต้นของพลังงานและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด บนหลักการที่ว่า "คนอยู่ได้
ป่าอยู่ได้" มูลนิธิฯ
จึงมีบทบาทในการร่วมผลักดันและส่งเสริมความเข้มแข็งและสร้างอาชีพให้กับชุมชนในพื้นที่ป่าต้นน้ำ
โดยสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชุมชนใช้ประโยชน์
ช่วยดูแลรักษา และอยู่ร่วมกับป่าต้นน้ำอย่างยั่งยืน ไม่เกิดการทำลายหรือเผาป่า
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหา PM 2.5 ในประเทศไทย
"ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการบูรณาการความเชี่ยวชาญของทั้ง
2 หน่วยงาน มูลนิธิไทยรักษ์ป่าเปรียบเสมือน
"โซ่ข้อกลาง" ที่ช่วยประสานและผลักดันผลงานวิจัย
องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ วว.
โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าเพิ่มและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
ให้เกิดการประยุกต์ใช้จริงในท้องถิ่น
เพื่อช่วยส่งเสริมอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ป่าต้นน้ำ เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน
ลดปัญหาการเผาป่า รวมถึงใช้งานวิจัยด้านป่าไม้ของ วว.
มาสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ตามหลักการบริหารจัดการป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม
ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"
ศาสตราจารย์ (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต
ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "วว.
มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเอ็กโก กรุ๊ป และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า
ซึ่งให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำ
สนับสนุนงานวิจัย และเผยแพร่องค์ความรู้ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
วว. ยินดีที่จะนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย พัฒนา
และบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ
และถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมไปสู่ชุมชนในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เพื่อร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมหรือ BCG โมเดล"
ทั้งนี้ ในปี 2563-2564
มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และ วว. ได้ร่วมกันนำเทคโนโลยี "การเพาะเชื้อเห็ดป่าไมโครไรซา"
ไปขับเคลื่อนการพัฒนาป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
และได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ให้กับนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ภายใต้โครงการเครือข่ายเยาวชนไทยรักษ์ป่า
จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 30 โรงเรียน
เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเพาะเชื้อเห็ดป่า
นับเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผลสร้างพื้นที่สีเขียว
ก่อให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ลดการเก็บเห็ดป่าโดยใช้วิธีการเผาทำลายป่าไม้
และปัญหาหมอกควันในอนาคต
และยังได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีการยืดอายุการเก็บรักษาลูกประ หรือลูกกระ
ซึ่งเป็นเมล็ดของต้นประ ไม้ยืนต้นที่พบได้ในพื้นที่ทางใต้ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่บ้านในหมง
อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
ถือว่าเป็นการสร้างประโยชน์ให้คนอยู่ร่วมกับป่าเพื่อสร้างรายได้
เสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนได้เป็นอย่างดี